[ภาคจบ] ภาพที่เปลี่ยนชีวิต 10 ช่างภาพ National Geographic

1

สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูภาคแรก ก็ตามไปดูได้ ที่นี่


ภาพโดย  Erika Larsen, Altered Landscape, 1995

ฉันได้ถ่ายรูปนี้ระหว่างการเร่ิมต้นเรียน สีกับการถ่ายภาพและ การพิมพ์ภาพ ในปี  1995 เมื่อฉันอายุ 19 ปี ฉันได้รับงานให้ต้องปถ่าย Altered Landscape

ในเวลานั้น ฉันได้ใช้แสงเทียม เพื่อมองเห็นว่ามันจะกระทบต่อสีหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างบนฟิลม์ ในรูปนี้ ฉันให้ไฟไปยังดอกทานตะวันด้วย การใช้ Flash และฉันได้เดินผ่าน ไปในเฟรม โดยถือไฟฉายไป้วย ทำให้เกิด แสงในท้องฟ้า

แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ เทคนิคทั้งหมด

ภาพนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ฉันเริ่มเรียนรู้ที่จะมีภาพในหัว ฉันพอที่รู้มาบ้างว่าการถ่ายภาพมันสามารถถ่ายทอดให้คุณไปอยู่อีกที่ ที่หนึ่ง อีกเวลาหนึ่ง อีกอารมณ์หนึ่ง อย่างไรก็ตาม ฉันก็ได้ประสปการณ์พวกนี้จากการดูภาพของคนอื่น ภาพเหล่านั้นมันเป็นแรงบันดาลใจให้ฉัน แต่ก็ไม่มีห้องเรียน ไม่มีหนังสือเรียน หรือ เทคนิคไหนๆ ที่สามารถสอนว่าทำอย่างนั้นได้อย่างไร มันเป็นของขวัญเมื่อคุณพร้อมที่จะผลักตัวเองให้กลายเป็นผู้สร้างภาพที่ทะเยอทะยาน ด้วยภาพนี้ ฉันจำความรู้สึกครั้งแรกได้ เมื่อฉันได้เปิดโลกประสปการณ์ระหว่างการทำภาพครั้งแรก ฉันยังได้เปิดส่วนหนึ่งของอารมณ์ของฉัน  ภาพนี้เป็นจุดสำคัญที่ช่วยให้ฉันเชื่อว่า มันเป็นไปได้ที่จะสร้างภาพที่จะเข้าไปในใจของคนอื่น แม้ชั่วครู่ก็ตาม —Erika Larsen

ภาพโดย Steve Winter, Port-au-Prince, 1990

เมื่อผมอายุ 17 ปี ผมได้บริจาคให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในแม็กซิโกกลาง ต่อมาเมื่อผมมาเป็นช่างภาพ ผมได้ยินมาว่ายังมี สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ายังมีบ้านและที่พักรับรองสำหรับเด็กๆในเฮติ ผมได้ตัดสินใจไปที่นั่นและให้ บางอย่างกลับไปโดยการถ่ายภาพเล่าเรื่องเพื่อระดมทุนช่วยเหลือ ใน Port-au-Prince เด็กหลายคนได้ถูกทอดทิ้งเอาไว้หน้าบ้านแม่ชีเทริซ่า(Mother Teresa’s Sisters)  ครอบครัวพวกเขาไม่มีเงินที่เลี้ยงดูเด็กเหล่านี้ เมื่อผมเจอเด็กที่สวมเสื้อมิ้กกี้เมาส์ เขาไม่พูดมาเป็นเวลากว่า หก สัปดาห์ เขาได้รับประสปการณ์ที่บอบช้ำมามาก

เพื่อที่จะทำการถ่ายภาพได้ อย่างแรกผมต้องทำงานที่บ้านพักรับรองและคลินิก เพื่อที่แสดงให้เห็นว่าผมจริงจังกับอะไรที่ผมทำอยู่ สิ่งเหล่านี้เป็นกฏ การทำงานนศูนย์ช่วยเหลือเหล่านี้มันทำให้ผมได้มีอารมณ์ ซึมซับไปด้วย วันสุดท้าย ผมได้ถ่ายภาพเด็กๆเหล่านี้ ที่ผมได้รู้จักกันแล้ว เด็กตัวเล็กๆที่ใส่เสื้อมิกกี้เมาส์ ก็พูดในวันนั้น และก็บอกลาผม เมื่อผมกลับ  ผมจะจดจำสิ่งนี้ตลอดไป เวลาของผมในเฮติ ผมมีความสุขมาก ผมได้รับมากกว่าอะไรที่ผมได้ให้ไป มันเป็นประสปการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตผม ขอบคุณ

Steve Winter

Michael Nichols, กอริล่าภูเขาSilverback ชื่อว่า Mrithi, 1980

เมื่อปี 1980 ผมได้อยู่ในฝันของผม ในฝันนั้นผมเห็นป่า แต่มันไม่ใช่จุดประสงค์ทีแท้จริง ผมได้ไปรวันด้ากับ Tim Cahill เพื่อทำนิตยสาร Geo Magazie ผมเสนอเรื่องที่ผมได้แรงบันดาลใจจากวัยเด็กของผมที่ได้ดู National Geographic และความมีเสน่ห์ของ ลิงตัวเมียขนาดใหญ่ ของ Leakey ที่ชื่อว่า Fossey, Goodall และ Galidkas ผมต้องการจะทำตามหัวใจของผม และทำสารคดีเกี่ยวกับกอริลล่า ภูเขา แต่ผมไม่เคย ถ่ายรูปสัตว์ป่าเลย ทิมและผม ได้เข้าไปยังป่าไผ่มืดและศึกษาเชิงนิเวศ  เพื่อที่จะรักษาไว้ซึ่งกอริลล่าภูเขาที่ใกล้จะสูญพันธุ์

ผมจะออกไปถ่ายรูปทุกวัน กอริลล่าส่วนมากจะเขินทำให้ได้ภาพที่ไม่ดีนัก ผมได้ไปเยี่ยมดูกอริลล่าภูเขา SilverBlackที่ชื่อ Mirithi ก่อนยุคดิจิตอล 25 ปีมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะถ่าย กอริลล่าสีดำในป่ามืด ที่ขาดแสงไฟ และการใช้แฟลชทำให้สัตว์ขี้อายเหล่านี้กลัว  การถ่ายรูปมันเป็นเรื่องของช่วงเวลาจังหวะ ในจุดๆหนึ่ง ผมได้เข้าไปใกล้ Mrithi และ ทำให้หน้าลิงตัวนี้เต็มกล้อง แต่เมื่อชัตเตอร์เปิดเธอขยับตัวเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามภาพมันก็ใช้ได้ และกลายมาเป็นเรื่อง Gorilla Tactics ถึงวันนี้ ผมก็ยังถ่ายภาพอยู่ ภาพนี้เป็นภาพที่ทำให้ผมเข้ามาสู่วงการการถ่ายภาพ National Geographic และ เป็นการทำให้ภาพนั้นพูดแทนสิ่งที่ไม่สามารถพูดได้ —Michael Nichols

ภาพโดย Paul Nicklen, Nord Austlandet, 2013

เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมได้เดินทางไปดินแกนขั้วโลก ผมแอบหวังอยู่เสมอเกี่ยวกับการทำนายหรือพยากรณ์จากนักวิทยาศาสตร์จะเตือนเราหากเกิดสิ่งที่เลวร้ายขึ้น อย่างไรก็ตามมันก็น่ากังวลน้อยกว่าครั้งล่าสุดที่ผมไปอยู่ที่นั้น น่าเศร้า ระหว่างการเดินทางในฤดูร้อนปีที่แล้วของผม เพื่อไป Svalbard นอร์เวย์ มันไม่ได้อยู่ในเคสที่กล่าวมา ไม่ใช่แค่ปีนี้ที่ผมเห็นหมีขั้วโลกตายมากกว่า 25 ปีที่ผ่านมา ผมได้สำรวจในอาร์กติก มันเป็นช่วงฤดูร้อนแรกที่ไม่มีน้ำแข็ง ที่ผมเคยเห็นในอาร์กติก เหตุผลง่ายๆ คือ ความอยู่รอดของหมีขั้วโลก ขึ้นอยู่กับความสามารถในการหา และล่าแมวน้ำ ที่เป็นเหยี่อของพวกมัน มันเกิดขึ้นได้ถ้ายังมีทะเลน้ำแข็งที่สามารถเป็นแหล่งให้ล่าได้ ในขั้วโลก นำแข็งเป็นเหมือนดินในสวน  มันเป็นสิงที่จำเป็นสำหรับสิง่มีชีวิตต่างๆ และหลายครั้งที่เราได้เห็นน้ำแข็งขั้วโลกละลายระหว่างฤดูร้อน

ในขณะที่เรือของเราแล่นเข้าหาน้ำแข็งขนาดใหญ่ใน Nord Austlandet ผมตกใจมาก ที่เห็นน้ำตกที่เกิดจากการละลายของน้ำแข็ง ผมแทบไม่เชื่อสายตา คุณสามารถช่วยได้ผ่าน SeaLegacy ผมได้โชว์ให้หนึ่งในผู้บริจาคของเราได้โดยตรง ว่าเธอสามารถช่วยเหลือให้คนตระหนักและสนันสนุนสภาพภูมิกาศแบบนี้ได้อย่างไร

ขณะที่บางคนอยากจะเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง บางคนก็ต่อต้าน บางคนก็เป็นเหยื่อของการเปลี่ยนแปลง และบางคนก็มีแรงบันดาลใจที่จะเปลี่ยน ผมทำได้แค่ถ่ายภาพและเล่าเรื่องงเล่านี้ —Paul Nicklen

ภาพโดย Lynn Johnson, จุดเปลี่ยน, 2014

ภาพนี้ไม่ได้ถ่ายเพื่อส่งงาน นี่เป็นพ่อของผม แจ๊ค และช่วงเวลานั้น ผมได้ถ่ายรูปนี้ ผมคิดว่าเขากำลังจะตาย ข้างๆ นั่นคือแม่ของผม เจน เธอ และพ่อของผม แต่งงานกันมา 67  ปีแล้ว คบกันตั้งแต่เธอได้เห็นเขาบนบันไดโรงเรียนมัธยม ที่ใส่เสื้อสีขาวที่ม้วนแขนเสื้อขึ้น อีกฝั่งหนึ่งคือชาร์ล เพื่อนใหม่ของพ่อผม เจนและชาร์ลได้ทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อผมยังมีชีวิตอยู่ โดยรายงานผลฟุตบอลล่าสุดเมื่อเดือนก่อน ผมได้ถ่ายทำสารคดีการตายของ Phyllis เพื่อนของแม่ผม เป็นงานของ National Geographic เกี่ยวกับจุดจบของชีวิต จากการได้ยินของลมหายใจสุดท้ายของ Phyllis เสียงแผ่วๆ ที่เข้ามาในสมองของผม ทำให้ผมทราบข่าวว่าพ่อของผมกำลังลื่นหกล้ม ผมวิ่งเข้าไปช่วย และเราก็รอหมอ ผมถ่ายรูปนี้ด้วยมือถือ เมื่อหมอมาถึงพร้อมใส่ท่อและสายต่างๆ หลังจากนั้นผมโทรหาเพื่อนของผมที่เป็นลูกสาวของ Phyllis บอกว่าแม่ของเธอได้ช่วยพ่อของผมไว้ ในความเงียบครู่หนึ่ง เราพิจารณาเกี่ยวกับมัน แม้ว่า Phyllis ได้จากไปในทางกายภาพแล้ว แต่จิตวิญญาณของเธอก็ยังมีพลังอยู่

Lynn Johnson
Credits: national geographic