เกือบจะทุกคนที่ต้องนั่งหน้ากล้องคนเดียวเพื่อถ่ายภาพคนหรือถ่ายภาพครึ่งตัวระดับมืออาชีพ แล้วมีความรู้สึกอึดอัดใจในการถ่าย แต่บ่อยครั้งที่ช่างภาพส่วนใหญ่มักจะลืมคิดถึงเรื่องนี้
เมื่อฉันได้พบคนที่มาถ่ายรูป บ่อยครั้งพวกเขาจะสารภาพว่าเขาคิดว่า “ภาพฉันน่ากลัว”, “ภาพฉันหน้าดูเหมือนไม่สบาย” หรือ “ฉันไม่ชอบใบหน้าของฉัน”
บางทีอาจเป็นเพราะฉันรู้สึกเข้าใจความรู้สึกผู้อื่น ฉันได้พัฒนาความสามารถพิเศษในการทำให้คนที่กังวลและสิ้นหวังมากได้ตื่นเต้นเกี่ยวกับภาพของพวกเขา ในบทความนี้ฉันจะแสดงให้คุณเห็นว่าฉันทำอย่างไรเพื่อให้คุณสามารถถ่ายภาพลูกค้าให้มีความสุขถึงแม้ว่าลูกค้าจะรู้สึกอึดอัดใจก็ตาม
1.ตั้งค่าแสงแบบเรียบง่าย
ในทุกๆวันของคุณเต็มไปด้วยเรื่องที่หนักและยากอยู่แล้ว ฉันเลยมักจะกระตุ้นให้ช่างภาพทำงานของพวกเขาแบบเรียบง่าย(แต่มีความหมาย)ให้ได้มากที่สุด
ไม่ว่าคุณจะเลือกแสงอย่างไรในการในการถ่ายรูป ผมขอแนะนำให้คุณทำมันให้เรียบง่ายที่สุด จุดที่สำคัญคือมุ่งเน้นไปที่บุคคลที่คุณกำลังถ่ายอยู่ ไม่ใช่บนอุปกรณ์
ฉันจะเลือกใช้แสงธรรมชาติ(จากหน้าต่างและอุปกรณ์สะท้อนแสง) หรือแสงไฟตัวเดียว
แสงจากหน้าต่าง
ประโยชน์จากการใช้แสงธรรมชาติคือจะไม่มีแสงแฟลชหรือร่มคันใหญ่ ซึ่งสิ่งเหล่านั่นจะทำให้บุคคลที่มาถ่ายรูปรู้สึกว่าพวกเขาอยู่ภายใต้ความกดดันสูงในการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ ตัวแบบจะจินตนาการไปถึงสิ่งที่เขาเคยเห็นในทีวี และคุณควรลดความกดดันเหล่านั่น
การตั้งค่าถ่ายแสงธรรมชาติของฉัน
รูปที่ถ่ายโดยใช้แสงจากหน้าต่างของสตูดิโอ
การใช้แสงธรรมชาติและเสียงชัตเตอร์เงียบโดยใช้กล้องแบบไม่มีชุดกระจกสะท้อนภาพ จะช่วยให้ลดการรับรู้ว่ามีการถ่ายภาพอยู่ที่นั่นในระดับหนึ่ง ทำให้นางแบบกดดันน้อยลง
การถ่ายโดยใช้ การใช้ไฟดวงเดียว
การตั้งค่าไฟดวงเดียวของฉัน มีแค่ไฟดวงเดียวและร่มขนาด 60 นิ้ว
รูปที่ใช้แสงไฟดวงเดียว
เมื่อติดตั้งเรียบร้อย คุณควรลืมเกี่ยวกับอุปกรณ์ของคุณ(หน้าต่าง, อุปกรณ์speedlight, และกล้อง) และโฟกัสไปที่ตัวแบบของคุณ 100%
2.วิธีการโฟกัส
นี่ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับกล้องของคุณ แต่มุ่งเน้นไปที่ตัวแบบของคุณเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าคุณเป็นช่างภาพและรู้สึกประหม่า สิ่งสำคัญคืออย่าโฟกัสที่ตัวเอง
บางทีคุณอาจจะกังวลเพราะว่าคุณขาดความมั่นใจ หรือคุณกังวลว่าพวกเขาจะไม่ชอบรูปของพวกเขา ให้ลืมไปทั้งหมดและมุ่งเน้นไปที่ตัวแบบของคุณเท่านั่น
พูดคุยกันเล็กน้อย
ภาพบุคคลไม่ได้เกิดจากกล้อง แต่เกิดจากทั้งสองฝั่งของมัน
–Edward steichen
คุณสามารถใช้การพูดคุยเล็กน้อยเพื่อทำให้ตัวแบบของคุณคลายความกังวลและไม่ประหม่าตอนอยู่หน้ากล้อง คุยเกี่ยวกับธุรกิจของเขา ลูกของเขาหรือการท่องเที่ยวล่าสุดที่ไปมา ทุกสิ่งที่จะทำให้พวกเขาหันเหความสนใจจากการอายกล้องถ่ายรูป
อุ่นเครื่องเพื่อความอุ่นใจ
ทำให้สบายใจโดยการ “ทดสอบถ่ายภาพ” ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เอาภาพนั่นก็ตาม ให้ตัวแบบของคุณมานั่งหน้ากล้องและถ่ายรูปสักสองสามภาพโดยที่คุณไม่ได้ทำอะไรนอกจาก “กำลังทดสอบแสง”
สั่งพวกเขาเล็กน้อยแต่ไม่ให้เครียดเกินไป บางครั้งฉันก็เปลี่ยนไปเป็นการภาพถ่ายจริงโดยพูดอะไรแบบตลก ๆ เช่น “เอาล่ะแสงสมบูรณ์แบบแล้วตอนนี้ให้ฉันได้เห็นรอยยิ้มอันน่าอัศจรรย์ของคุณ” มันมักจะนำไปสู่เสียงหัวเราะและภาพตอนเผลอ
การถ่ายภาพบุคคลตอนเผลอถือเป็นส่วนที่สนุกสนานที่สุดของการถ่ายภาพบุคคลสำหรับฉัน คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักแสดงตลกที่ทำให้คนหัวเราะ เพียงแค่เชื่อมต่อบางสิ่งบางอย่างในชีวิตของคุณกับตัวแบบของคุณและเสียงหัวเราะจะมาในที่สุด
รูปที่ 8 ฉันมักจะพยายามจับคู่ลักษณะการแสดงออกของตัวแบบของฉันกับเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ ฉันคิดว่าการแสดงออกที่นุ่มนวลเหมาะสำหรับสวมใส่อย่างเป็นทางการ แต่ฉันจะลองทุกอย่าง และตัดสินใจภายหลังว่าแบบไหนดูดีที่สุด
ถ่ายภาพบุคคลตอนเผลอ
“มีสิ่งหนึ่งที่ภาพถ่ายควรมี นั่นคือ ภาพที่มีอารมณ์และความรู้สึกอยู่ด้วย ”
-Robert Frank
แม้กระทั่งรูปที่ถ่ายช่วงท่อนบนแบบมืออาชีพยังควรต้องมีรูปแบบถ่ายตอนเผลอ รูปตอนเผลอนั่นเป็นรูปที่แสดงตัวตนจริงของตัวแบบของคุณ คุณจะสามารถค้นหาได้ว่าเขาคือใคร เมื่อเกราะป้องกันเขาลดลงแล้ว จะแสดงถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา
เมื่อใดที่ผู้คนสามารถหัวเราะด้วยกันได้พวกเขาจะเริ่มเชื่อมต่อกันได้อย่างสบาย
เรามักหัวเราะเพราะความตึงเครียดที่สร้างขึ้นโดยเรื่องตลก แม้แต่ในชีวิตจริงความตึงเครียดก็อาจนำไปสู่การปล่อยออกมาผ่านเสียงหัวเราะได้
3.การค้นพบจิตวิญญาณ
“มองและคิดก่อนกดชัตเตอร์ หัวใจและความคิดเป็นเลนส์ที่แท้จริงของกล้อง “- Yousuf Karsh
ฉันไม่สนใจว่าฉันจะถ่ายรูปตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ ทนายความในอนาคต เด็กนักเรียนมัธยมปลายหรือ “คุณแม่ยอดนักจัดการ” ฉันปฏิบัติกับทุกคนเช่นผู้บริหาร ผู้แทนนักเรียน หรือเจ้านายในระหว่างช่วงเวลาการถ่ายภาพบุคคล
พวกเรามีลักษณะที่ลึกกว่าแค่อาชีพการงาน บางทีมันจะแสดงออกมาได้ลึกกว่า ว่าจริงๆแล้วเราเป็นใคร ในช่วงเวลาถ่ายภาพพยายามร่าเริงและพูดคุยกับตัวแบบอย่างเป็นกันเอง และสุดท้ายเมื่อคุณมองไปที่รูปภาพคุณจะเห็นช่วงเวลาที่วัตถุของคุณเริ่มผ่อนคลาย เมื่อผ่อนคลายแล้วคุณจะพบกับ ตัวตนที่แท้จริงของตัวแบบ ที่อยู่ภายใต้หน้ากากหรือรอยยิ้มปลอมๆ อาจต้องใช้เวลาถึง 10 นาทีหรือมากกว่าเพื่อไปถึงจุดนั้น และเมื่อถึงจุดนั้นคุณสามารถนำความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ไปใช้กับตัวแบบได้ สามารถแสดงให้พวกเขาดูได้ว่า squinch ทำอย่างไร (squinch เป็นเทคนิคการควบคุมดวงตาแบบหนึ่งของ Peter Hurley) สามารถโพสท่าในระดับสูงได้มากขึ้น หรือถ่ายใกล้ๆได้มากขึ้น
เมื่อผมถ่ายภาพบุคคลที่ตัวแบบต้องการได้แล้ว ผมได้ลองถ่ายอะไรใหม่ๆ ฉันรักการแสดงออกที่นุ่มนวลและเส้นผมที่อยู่รอบๆใบหน้าเธอ สิ่งนี้มันจะไม่ปรากฏบนนามบัตรของเธอ แต่ฉันคิดว่ามันเป็นรูปถ่ายบุคคลที่ยอดเยี่ยม
ทำให้ภาพตอนเผลอสมบูรณ์
“มันเป็นสิ่งหนึ่งที่ถ่ายภาพออกมาเพื่อแสดงว่าเขารูปลักษณ์เป็นอย่างไร และมีอีกสิ่งหนึ่งเพื่อแสดงว่าเขาคือใคร ”
-Paul Caponigro
จากแรงบันดาลใจของภาพข่าว และความอยากได้ความดิบของภาพ ภาพแบบเผลอ ภาพแบบธรรมชาติ ฉันตัดสินใจที่จะไม่สั่งให้นางแบบโพส ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมีแค่การคุยกันและภาพถ่าย
นี่เป็นผลลัพธ์ที่ฉันรัก
ภาพนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือดวงตาและอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในใจของเธอทำให้ฉันอยากหัวเราะ!
การถ่ายภาพตอนเผลอให้สมบูรณ์บางครั้งต้องถ่ายภาพจำนวนมาก บางภาพก็ดูเหมือนตั้งใจโพส บางรูปจะแสดงตัวตนจริงๆของเขาออกมา แต่มันก็เป็นเรื่องของการจับภาพอย่างรวดเร็วและได้ภาพก่อนที่ช่วงเวลานั้นจะผ่านไป
ฉันใช้หน้าต่างเป็นแหล่งกำเนิดแสงธรรมชาติ เป็นช่วงเวลาแห่งความเงียบในระหว่างการสนทนาของเราเมื่อเธอมองออกไปนอกหน้าต่าง นี่เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยม
คุณอาจจะประหลาดใจว่า “ลูกค้าคนนี้กล้าที่จะพาลูกมาด้วยหรอ? “เขาอาจทำสตูดิโอเละ และทำให้เธอเสียสมาธิจากช่วงเวลาที่เป็นมืออาชีพของเธอ แต่ในช่วงที่เด็กเข้ามา ทำให้ทุกคนประหลาดใจ ลูกชายของเธอเขามาเป็นเหมือนพยาบาลรักษาเธอ บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่โรเบิร์ตแฟรงค์หมายถึง “ช่วงเวลาของความเป็นมนุษย์ที่แท้จริง”
การถ่ายภาพบุคคลซึ่งควรจะเป็นเธอ แต่เธอก็ไม่ได้เป็นตัวเองอย่างแท้จริง เราทุกคนมีลักษณะที่ลึกกว่าตัวเรามาก เราเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นบางส่วนเป็นเพราะคนรอบตัวเรา
บางทีคุณอาจรู้ว่าตัวแบบของคุณได้ถึงระดับสูงสุดของความสะดวกสบาย เมื่อพวกเขาสามารถดูแลลูกน้อยของพวกเขาแม้ในขณะที่กล้องยังคงคลิก ฉันตื่นเต้นที่จะถ่ายภาพบุคคลแบบตัวต่อตัวและสร้างภาพบุคคลที่พวกเขาจะเป็นผู้เขียนหรือแต่งขึ้นเอง แต่ฉันตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นเมื่อภาพเหล่านั้นกลายเป็นช่วงเวลาของมนุษย์อย่างแท้จริง
สร้างความสบายใจ
ในครั้งต่อไปที่ถ้าคุณพบลูกค้าที่กังวลในการถ่ายรูปบุคคล โปรดจำไว้ว่าประสบการณ์นี้ช่วยกระตุ้นในใจพวกเขา พยายามพูดคุยเล็กๆน้อยๆ เพื่อให้พวกเขารู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น สร้างความอุ่นใจให้พวกเขาด้วย
ด้วยภาพถ่ายทดสอบ “แบบไม่กดดัน” และทำให้เสียงหัวเราะเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายภาพของคุณ
รวมการภาพถ่ายแบบเผลอเมื่อคุณส่งภาพให้พวกเขา ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถใช้มันเพื่องานธุรกิจ พวกเขาอาจจะรักภาพนั่น (และคุณ) มากที่สุด
เพื่อนๆมีเทคนิคที่ทำให้ตัวแบบผ่อนคลายอย่างไรบ้าง สามารถคอมเมนต์แนะนำกันมาได้เลยครับ