พื้นที่เก็บภาพ
พื้นที่ฮาร์ดดิสก์เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา ยิ่งกล้องความละเอียดเยอะๆ ขนาดไฟลืยิ่งสูงตาม เช่น A7R มี Raw file ขนาด 35 MB ส่วน A7RII ขนาด 42 MB เพิ่มขึ้น 16% และ A7RIII อาจใช้เนื้อที่ถึง 50-70 MB ต่อภาพ
นอกจากฮาร์ดดิสก์แล้ว การ์ดหน่วยความจำ ก็เป็นอีกอย่างที่ต้องคำนึง หากคุณมีการ์ด 32GB และใช้ A7R จะจุได้ 900 ภาพ ถ้าใช้ A7RII จะจุได้ประมาณ 750 ภาพ และ 400 ภาพ หาก ไฟล์ Raw ขนาด 80 MB นอกจากนี้เมื่อไฟล์ขนาดใหญ่มากความเร็วในการอ่านเขียนของการ์ดก็ต้องเร็วมากขึ้น สิ่งเหล่านี้มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
เลนส์ที่รองรับ
เมื่ออยู่ในวงการถ่ายภาพมานาน จะมีอาการอย่างหนึ่งที่เรียกว่าเลนส์งอก จะมีเลนส์เพิ่มขึ้นมากมาย การจะซื้อกล้องใหม่โดยเฉพาะค่ายอื่นๆ ต้องพิจารณาด้วยว่าเลนส์ที่มีอยู่สามารถใช้ได้ไหม และถ้าใช้ adapter มันรองรับกับเลนส์ไหม รองรับแค่ไหน เพราะบางฟังก์ชั่นจะไม่สามารถใช้งานได้ เช่นออโต้โฟกัส เป็นต้น
ความละเอียดของเลนส์
ขณะที่คุณชื่นชมกับความละเอียดกล้องใหม่ที่สูงมากๆอยู่นั้น บางทีเลนส์ที่คุณใช้อยู่ไม่สามารถให้รายละเอียดเพียงพอกับเซนเซอร์ใหม่ได้ เนื่องจากคุณภาพของชิ้นเลนส์ที่ต่ำ ก็ไม่สามารถให้ภาพที่ดีที่สุดออกมาได้ เลนส์ดีๆ หลายตัวเมื่อสองสามปีมีนี้ ก็ไม่ได้รองรับความละเอียดถึง 50 ล้านพิกเซลขึ้นไป ซึ่งในจุดนี้สามารถดูได้จาก MTF chart แต่หากดูยากไป ใน DXOMARK จะมี Perceptual Megapixel (sharpness) ให้ดูซึ่งออกแบบมาสำหรับคนที่ไม่เข้าใจ MTF Chart
ตัวอย่างการอ่าน สมมติคุณใช้เลนส์ 24 ล้านพิกเซล แต่ใช้เลนส์ที่มีค่า 18 P-MPix หมายความว่าภาพที่ได้ความคมจะเทียบเท่ากับการถ่ายด้วยกล้อง 18 ล้านพิกเซล
ความแรงของคอมพิวเตอร์
ความแรงของคอมพิวเตอร์นั้นเป็นสิ่งที่หลายคนมักมองข้ามเมื่อซื้อกล้องใหม่ ลองจินตนาการว่าภาพจาก 20 ล้านพิกเซลเป็น 40 ล้านพิกเซล ขนาดเพิ่มขึ้นสองเท่าในการโปรเซสรูปแต่ละรูป คอมพิวเตอร์ของคุณรองรับได้หรือไม่
เมื่อคอมพิวเตอร์ต้องประมวลผลเพิ่มขึ้นสองเท่า แน่นอนว่าคุณไม่ต้องการทำงานช้าลง เมื่อต้องซื้อคอมพิวเตอร์ผมมักซื้อให้แรงไว้ก่อน โดยเฉพาะบางอย่างที่ไม่สามารถอัพเกรดได้ในอนาคต แล้วยิ่งเป็น iMac ซึ่งผู้ใช้ไม่สามารถอัพเกรดเครื่องเองได้ภายหลัง และอย่างที่รู้ว่าแรมของแอปเปิ้ลนั้นค่อนข้างแพง ดังนั้นอย่ามองข้ามความแรงของคอมพิวเตอร์ของคุณเมื่อจะซื้อกล้องใหม่ ถ้าเป็นไปได้เอาการ์หน่วยความจำไปขอใส่กล้องที่คุณอยากได้ในร้าน แล้วเอาไฟลืภาพนั้นมาลองแต่งภาพดู
ปัญหาที่คุณต้องการแก้ไข
ข้อสุดท้าย แต่มันควรเป็นสิ่งแรกที่คุณต้องคิดคือ ทำไมถึงต้องมีมัน กล้องเรามีขีดจำกัดตรงไหน มันช่วยแก้ปัญหาอะไร บางครั้งคำตอบมันอาจง่ายๆ เช่นกล้องที่ใช้อยู่ใช้มาเกือบ 10 ปีแล้ว มันคงหมดอายุการใช้งานแล้ว หรือแก้ปัญหาเฉพาะเช่น ถ่ายกีฬา ต้องใช้ความเร็วในการถ่าย และโฟกัสมากขึ้น ซึ่งกล้องเก่าไม่สามารถตอบโจทย์และพลาดจังหวะสำคัญๆบ่อย หรือ กล้องใหม่มีกันสั่นในตัวกล้อง แต่เราถ่าย landscape และถ่ายบนขาตั้งบ่อยมาก เราต้องใช้ฟังก์ชั่นนี้หรือไม่? หรือซื้อเพราะ แค่มันเป็นกล้องตัวใหม่?
เรื่องพวกนี้คุณต้องถามตัวเองว่าสิ่งใหม่ๆที่กล้องให้มาจำเป็นกับเราแค่ไหน แก้ปัญหาเราอย่างไร ส่วนเรื่องเงินคงไม่พูดถึงกันนะครับ เราน่าจะประมาณตัวเองกันได้อยู่แล้ว หากซื้อแล้วเป็นหนี้เป็นสิน และไม่สามารถทำเงินกับมันได้ อาจต้องใช้ตัวเก่ากันไปก่อน
หวังว่าบทความนี้คงช่วยให้คุณพิจารณาได้ดีขึ้นในการซื้อกล้องตัวใหม่ครั้งต่อไปนะครับ
credits: diyphotography