หลายคนที่ติดตามเพจนี้มานานแล้วคงคุ้นกับชื่อ Elena Shumilova เพราะผมได้นำผลงานสวยๆของเธอมาให้ชมกันบ้างแล้วเช่นคุณแม่คนเก่ง ถ่ายรูปลูกและสัตว์ในฟาร์ม จะเก่งแค่ไหน ตามมาดู แต่ครั้งก่อนเป็นภาพสวยๆมาให้ชม แต่ครั้งนี้จะเป็นเทคนิคที่เธอใช้
ลองดูในวิดีโอนี้นะครับ และในวีดีโอกับบทความจะไม่ตรงกันเท่าไหร้นะครับ ดูวีดีโอแล้วก็ลองอ่านบทความเพิ่มเติมดูนะครับ
1) ทำให้เด็กๆดูเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่ท่าโพส
เมื่อเด็กๆ วิ่ง หัวเราะ เล่นในทุ่งหญ้า แสงก็สวยพอดี คุณเห็นภาพสวยๆที่อยากจะเก็บไว้ เลยหยิบกล้องขึ้นมา ทันใดนั้นเอง เด็กๆหันมาเห็นกล้อง พวกเขาเริ่มเกร็งๆ เริ่มโพสต์ จังหวะสวยๆเหล่านั้นหายไปทันที แล้วต้องทำอย่างไรล่ะ ?
ภาพโดย Ivan Makarov
การถ่ายเด็กๆ สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆคือ … ถ่ายพวกเขาทุกวัน !!
ไม่ใช่แค่ถ่ายเป็นระยะๆ หรือเป็นครั้งคราว ถ้าทำแบบนั้นพวกเขาจะเกร็งเหมือนเดิม ความต่อเนื่องเป็นกุญแจสำคัญในเรื่องนี้ ทำให้เขาดูผ่อนคลายสบายๆ เมื่อมีกล้องอยู่รอบๆเขา
เพื่อให้ได้ภาพที่ดี เราต้องจับจังหวะให้ดี เมื่อพวกเขากำลังเล่นอยู่กับคนอื่นจนลืมไปว่ามีกล้องกำลังส่องพวกเขาอยู่
2) เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสม
เธอบอกว่าเธอทำตามกฏง่ายๆคือ เสื้อผ้าต้องไปรบกวนสายตา แม้จะเป็นกฏง่ายๆ แต่เวลาทำนี่ยากไม่น้อย ทำไมนะหรอ เพราะเสื้อผ้าเด็กทุกวันนี้ ถูกออกแบบมาให้สีฉูดฉาดดึงดูสายตาไงล่ะ สีสดใสบ้าง ลายการ์ตูนบ้าง ฯลฯ พวกนี้มันจะดึงดูดความสนใจออกจากตัวเด็ก
3) ความแตกต่างของอายุ
เด็กแรกเกิด
พ่อแม่หลายคนที่ขอให้เธอไปถ่ายรูปเด็กแรกเกิด มันเป็นงานที่ยากมากๆ เพราะเด็กมักจะร้อง แต่ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ของเขาจะดีมาก เพราะมีเวลาอยู่กับเขาตลอดเวลา และจะรู้ว่าช่วงไหนจะร้องไห้ช่วงไหนไม่งอแง ดังนั้นต้องให้พ่อแม่ของพวกเขาช่วยเลือกเวลาจะมีประโยชน์มาก
วัย 2-4 ปี
เป็นวัยที่คนส่วนใหญ่ชอบจะถ่าย รวมถึงเธอเอง
เด็กในวัยนี้จะดูเป็นธรรมชาติ พวกเขาไม่สนใจว่าใครจะดูพวกเขาอยู่ ไม่สนใจว่าใครจะคิดอะไร ที่สำคัญไม่สนกล้องด้วย
พวกเขาเป็นอิสระ
5 ปี หรือ โตกว่านั้น
มันค่อนข้างยากขึ้นเมื่อพวกเขาโตขึ้น ระยะ 5ปีนั้น พวกเขาเริ่มประหม่าเมื่อมีกล้องเข้ามาส่องพวกเขา
กุญแจสำคัญคือ อดทน ให้พวกเขาเล่นไป และคุณค่อยๆปลีกตัวออกมา หรือทำให้เด็กลืมไปว่ามีกล้องอยู่
ภาพโดย Ivan Makarov
4) ภาพเด็กและสัตว์
แต่ละสัตว์ก็มีความแตกต่าง เหมือนกับเด็ก สัตว์บางตัวก็ชอบถ่ายรูป บางตัวก็ไม่ เลยไม่มีสูตรตายตัว เธอใช้เวลาเป็นชั่วโมงเพื่อสำรวจสัตว์ในฟาร์มของเธอ ดูว่าพวกมันเคลื่อนไหวอย่างไร และมุมไหนที่ดีที่สุดสำหรับมัน (ใช้กับคนได้เช่นกัน)
เธอลองพยายามล่าสัตว์ด้วยอาหารแต่มันไม่ค่อยได้ผลนัก และภาพจะออกมาไม่ดีเมื่อพวกมันกำลังเคี้ยวหรือเลียอุ้งเท้ามันอยู่ การถ่ายสัตว์นั่นต้องาศัยโชค และความอดทน
5) อย่ายอมแพ้
ภาพนี้เป็นภาพที่ดังที่สุดของเธอ มีคนดูมากกว่า 10 ล้านครั้ง แต่เธอเกือบไม่ได้พกกล้องไปด้วยวันนั้น
ก่อนที่เธอได้ถ่ายรูปนี้มา เธอขาดความมั่นใจมาก เพราะเธอได้ลองถ่ายลูกเธอและสุนัขมากว่า 15 ครั้งแล้ว ไม่ใช่ 14 ภาพนะ แต่เป็น 14 ครั้ง (ครั้งละกี่ภาพไม่รู้) มันล้มเหลวทั้งหมด เธอจึงสงสัยว่าเป็นที่เธอ หรือเป็นเพราะสุนัขตัวนี้ไม่เหมาะกับการถ่ายภาพ เธอท้อแท้ และไม่อยากพกกล้องไปด้วยวันนั้น แต่ไม่รู้มีอะไรมาดลใจให้เธอหยิบมันไปด้วย และมันเป็นครั้งที่ 15 ที่ทำให้สุนัขตัวนี้สร้างชื่อขึ้นมา แต่มันก็ยังไม่ใช่สุนัขที่ถ่ายรูปขึ้นทุกมุม ยังเป็นสุนัขที่ทำงานด้วยยาก แต่หลังจาก 15 ครั้งที่ผ่านไป เธอได้รู้ว่ามุมไหม ท่าไหนที่เหมาะกับลูกของเธอ และ สุนัขของเธอ ทำให้รู้ว่า 14 ครั้งที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่ 14 ครั้งที่ล้มเหลว แต่เป็น 14 ครั้งที่ เธอได้เรียนรู้จากความผิดพลาด
credits: petapixel