ดอยหลวงเชียงดาว แปลได้ว่า “ภูเขาใหญ่โตที่สูงถึงดวงดาว” และได้ชื่อว่าเป็น สวรรค์บนดิน ในเมืองไทย ความสวยงามของมันนั้น ทำให้หลายคนยอมเดินป่าหลายกิโลเพื่อไปเก็บภาพมันไว้ซักครั้งในชีวิต รวมถึงผมด้วยเช่นกัน
การท่องเที่ยวมีทั้งแบบวางแผนและไม่วางแผน ซึ่งข้อดีนั้นต่างกัน แต่หากต้องถ่ายไปใช้งาน ก็ต้องมีการวางแผน เพื่อให้รู้ว่าจุดไหนสวยที่สุดในช่วงเวลาไหน และอะไรเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ เพราะถ้าวางแผนไม่ดีอาจพลาดในการเก็บภาพ ต้องขึ้นมาถ่ายใหม่อีกรอบอาจไม่สะดวกนัก
เราเลยจะมาแนะนำสิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปถ่ายรูปที่ดอยหลวงเชียงดาว สำหรับคนที่สนใจจะไปครับ

ช่วงเวลาที่น่าไปถ่ายรูป
ดอยหลวงเชียงดาวเปิดช่วง พ.ย. – มี.ค. ของทุกปี ช่วงที่น่าไปถ่ายรูปคือช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ธรรมชาติยังดิบๆ จากการฟื้นตัวในช่วงปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้า และจะมีดอกไม้บานมาในช่วงนี้
อีกช่วงที่น่าไปคือช่วงเดือน มค. ที่จะมีโอกาสเห็นดอกพญาเสือโคร่งและดอกกุหลายพันปีจะมีโอกาสได้ภาพที่สวยงาม
ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับทริปดอยหลวงเชียงดาว
ส่วนใหญ่จะไปกัน 3 วัน 2 คืน เพราะไม่เหนื่อยมาก มีเวลาพักผ่อนเยอะครับ
ระยะเวลาการเดินทาง
เดินทาง 4-5 ชั่วโมง ขึ้นช่วงเช้าประมาณ 10 โมงเช้า ถึงจุดกางเตนท์ประมาณ บ่ายสาม และช่วง4โมงเย็นควรเดินต่อไปยังยอดดอยหลวงเชียงดาว เพื่อถ่ายดวงอาทิตย์ตก ที่สำคัญยอดดอยหลวงเชียงดาวมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตด้วย อีกจุดที่มีคือดอยกิ่วลมครับ
เลือกเส้นทาง
การเดินทางไปขึ้นดอยหลวงเชียงดาว 2 ทาง
เส้นทางเด่นหญ้าขัด ไกลกว่าแต่ทางเดินสบายกว่า ระยะทาง 8.5 กิโลเมตร
ส่วนทางปางวัวทั้งชันทั้งโหด ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร
แต่ตั้งแต่ปีที่แล้วเส้นทางปางวัวได้ปิดไม่ให้ขึ้นแล้วครับ เลยเหลือแค่เส้นทางเด่นหญ้าขัด
เลนส์ที่ใช้
บนดอยหลวงเชียงดาวมีอะไรให้ถ่ายเยอะมาก ถ้าจะเน้นถ่ายรูปจริงจังควรเอาไปครบทุกช่วง แล้วฝากลูกหาบแบกมาครับ ควรพกเลนส์ไวด์ไปเพื่อถ่ายวิวด้านบน ใช้เลนส์ระยะไกลถ่ายกวางผา ถ่ายนก ที่นี่มีนกอาศัยอยู่ที่นี่มากกว่า 300 ชนิด สำหรับคนรักมาโครก็มีดอกไม้แมลงต่างๆ ให้ถ่ายเช่นกันครับ ดอกไม้ที่บานสะพรั่งช่วงเดือน มค. อาทิเช่น ชมพูพิมพ์ใจ, ฟองหินเหลือง, เหยื่อเลียงผา, แสงแดง, ดอกหญ้าลาย, ฟ้าคราม, หรีดเชียงดาว
จุดถ่ายแสงเช้า
ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ดอยกิ่วลม ที่ดอยหลวงเชียงดาวจะมีโอกาสพบเห็นทะเลหมอกบ่อย ไม่ใช่แค่ช่วงเช้า บางครั้งโชคดีเห็นช่วงเย็นด้วย แต่ถ้าดวงไม่ดีก็อาจไม่เจอครับ
จุดถ่ายถ่ายแสงเย็น
มีตรงยอดดอยหลวงจะมองเห็นดอยสามพี่น้อง และมีเสาธงไว้ให้ถ่ายรูปที่ตรงจุดนี้
อาหารการกิน
เตรียมไปเอง ไม่มีร้านสะดวกซื้อ ยกเว้นลูกหาบจะมาขายของครับ ไฟฟ้าไม่มี ข้างบนไม่อนุญาติให้ก่อกองไฟ ต้องพกเตาสนามและเเก๊สกระป๋อง น้ำดื่มควรพกไปอย่างน้อยคนละ 3 ลิตร ด้านบนไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติควรประหยัดน้ำให้มากที่สุด

ค่าลูกหาบ
ลูกหาบ 1 คน แบกน้ำหนักไม่เกิน 20 กก. หากไปกับทัวร์ของ FOTOJOURNEY ลูกหาบจะแบกให้เราฟรี คนละ 5 กก. ส่วนต่างจากนั้นจะคิด กก ละ90บาท/วัน พวกอาหารน้ำส่วนกลางเราไม่ต้องแบกเองอีกด้วย ราคาอยู่ในราคาทริปแล้ว
สำหรับคนที่อยากไปได้รูปสวยๆ ไม่อยากคิด ไม่อยากหาข้อมูลเอง มีคนคอยจัดการให้ทั้งพาหนะ อาหารการกิน และมีช่างภาพมากประสปการณ์มาสอนถ่ายภาพด้วย ลองไปกับ FOTOJOURNEY ดูครับ เขาเปิดทริปดอยหลวงเชียงดาวอยู่ช่วงเดือน ม.ค. นี้ สนใจสามารถติดต่อไลน์ @fotojourney ได้เลยครับ