สรุปเทคนิคถ่ายภาพจากมืออาชีพในงาน Canon EOS 6D Mark II Live Imagination ShowCase

0

ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมาทาง Canon Marketing (Thailand) ได้จัดงานเวิร์คช็อปให้ช่างภาพได้มาสัมผัสประสบการณ์จริงกับกล้อง Canon EOS 6D Mark II ในงาน Live Imagination ShowCase ขึ้นมาเพื่อแสดงศักยภาพของกล้องฟูลเฟรมราคาย่อมเยาว์อย่างเจ้า Canon EOS 6D Mark II นั่นเอง และนำมืออาชีพที่ใช้งานจริงในสายต่างๆ มาบอกเล่าประสบการณ์ และเทคนิคการถ่ายรูปให้ดูสวย แอดมินเลยมาสรุปให้ฟังกันครับ

Jakawin Photography

เริ่มจากท่านแรกคุณอาร์ม Jakawin ช่างภาพงานแต่งงานเจ้าของลายเซ็น Jakawin Photography

ไม่มีกล้องตัวไหนในโลกที่เพอร์เฟคในทุกๆ ด้าน เราเลือกใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์นั้นๆ ดีกว่า

– JaKAWIN PHOTOGraphy

คุณอาร์มได้เสริมว่าบางงานเช่นถ่ายแหวน เลนส์ที่ทำให้รูปออกมาดีที่สุด ไม่ใช่เลนส์ที่แพงที่สุดในระยะอื่นราคาหลายแสน แต่เป็นเลนส์มาโครซึ่งราคาไม่กี่หมื่นจะเหมาะกว่าและให้ภาพที่ดีกว่า 

ฉากตัดเค้กใช้มุมสูง ในการถ่ายงานแต่ง ก่อนหน้านี้อาจต้องยกบันไดไป เพื่อถ่ายมุมสูง เช่นตอนตักเค้ก แต่ด้วย Canon EOS 6D Mark II เป็นกล้องฟูลเฟรมที่พับหน้าจอได้อิสระ ทำให้งานสะดวกขึ้นมาก

ตั้งกล้องระนาบพื้นถ่ายมุมเงย บางช็อตต้องตั้งกล้องระนาบพื้น จะช่วยให้ได้มุมมองที่แปลก ทำให้ภาพดูน่าสนใจมากขึ้น ซึ่ง Canon EOS 6D Mark II มีหน้าจอพับได้อิสระอยู่แล้ว ก็สามารถถ่ายได้ง่ายๆ

งานที่มี Dry Ice ให้ตั้งกล้องกับพื้น พับจอขึ้นมามอง ถ่ายเสยขึ้นไป จะเห็น Dry Ice ชัดเจนและเหมือนครอบคลุมไปทั่วงาน จะให้ภาพที่ดูน่าสนใจขึ้นมาได้

การถ่าย Candid มุมเผลอๆ ของแขกในงาน หากเรายกกล้องขึ้นมาถ่ายปกติ แขกอาจเขินๆ เราก็ใช้จอพับให้เป็นประโยชน์อีก วางตำแหน่งเหมือนไม่ได้ถ่าย แล้วพับหน้าจอขึ้นมาแอบถ่าย จะให้ภาพที่ดูธรรมชาติ

ฉากบ่าวสาวเดินเข้างาน ควรเลือกกล้องที่ระบบโฟกัส Tracking ดี ไม่หลุด ซึ่ง Canon EOS 6D Mark II ตัวนี้ทำได้สบายๆ

และการถ่ายแหวน เมื่อก่อนต้องใช้ขาตั้ง แต่ด้วยศักยภาพของกล้อง Canon EOS 6D Mark II และมีจอพับอิสระ ตอนนี้สามารถถ่ายมุมแปลกๆ ได้ทำให้ได้มุมที่เหนือความคาดหมาย

และในงานที่ใช้แสงน้อย ให้ดัน ISO ให้สูงเพื่อรับแสงกล้องตัวนี้แม้ว่าจะใช้ 6400 หรือหลักหมื่นก็ยังสบายๆ

ใช้กล้องที่น้ำหนักเบา ทำให้ถ่ายสนุกมากขึ้น ได้มุมแปลกๆ มากขึ้น

อ้าวแล้วทำไมไม่ใช้ Mirrorless? คุณอาร์ม Jakawin บอกว่าถ้าถ่ายงานเขายังไว้ใจ DSLR มากกว่าในเรื่องของความเร็ว ความอึด ความทน ฯลฯ

สร้างความประทับใจให้เจ้าบ่าวเจ้าสาว ถ่ายเสร็จคุณอาร์มก็ต่อ WiFi อัพภาพเข้ามือถือใส่โลโก้ ส่งให้เข้าบ่าวเจ้าสาว บางครั้งงานยังไม่จบแต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ภาพแล้ว เขาก็ประทับใจ

พับจอไปด้านหน้าง่ายต่อการเซลฟี่ ยิ่งถ่ายเด็กๆเมื่อมีจอพับไปด้านหน้าเด็กจะมองจอ ไม่มองไปทางอื่นทำให้ถ่ายได้ง่ายขึ้น และคนถ่ายก็จัดองค์ประกอบได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

Dew แพรว Wedding

มาต่อกันที่คุณดิว ช่างภาพมืออาชีพจาก แพรว Wedding 

ภาพ Wedding สำหรับผมคือการ Capture ความรู้สึกของคู่รัก ยิ่งเราเข้าใจความรู้สึกของบ่าวสาวมากเท่าไหร่ เรายิ่งถ่ายภาพตามจินตนาการได้ดียิ่งขึ้น

– Dew แพรว Wedding

คุณดิวบอกว่าสิ่งที่ทำให้งานเขาโดดเด่นคือมุมมอง และอารมณ์ความรู้สึกของคู่รัก ซึ่งเขาใช้กล้อง Canon EOS 6D Mark II และเลนส์ Canon EF 85mm f/1.4L IS USM เลนส์ตัวนี้เหมาะกับการถ่าย Portrait ช่วยเก็บไฮไลท์ได้ดีสีผิวไม่ขาด สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของคู่รักได้ดียิ่งขึ้น

งาน Skin ถ่ายคนต้องเจอบ่อยๆ ยิ่งฉากที่ต้องเก็บ Texture ต้องใช้กล้องที่เก็บรายละเอียดให้ดี เพื่อแสดงรายละเอียดส่วน Texture ได้ดียิ่งขึ้น

Tracking Focus อย่าพลาดโมเมนต์สำคัญๆ เพียงเพราะว่าโฟกัสไม่ทันหรือหลุดโฟกัส ใช้ระบบ Tracking Focus ที่ไว้ใจได้ ซึ่ง Canon EOS 6D Mark II ไว้ใจได้ในเรื่องนี้

คุณดิวยังเล่าเบื้องหลังการถ่ายภาพสวยๆ ของเขาให้ฟังกันด้วย

ภาพนี้คุณดิวสังเกตแสงตกกระทบหน้าเจ้าสาว เขาเลยขอให้จ้าสาวนำผ้าคลุมมาไว้ด้านหน้า ทำให้เห็น Texture ที่น่าสนใจ ภาพเลยดูน่าสนใจมากขึ้น

ภาพนี้ใช้รูรับแสง f/1.4 ถ่ายเพื่อให้แหวนเป็นจุดเด่น และให้ผิวเนียนละมุมขึ้น

ภาพนี้จริงๆแบบหันหน้ามาให้ แต่ช่างภาพเห็นว่าเธอใส่ชุดเว้าหลัง คุณดิวชอบการเก็บรายละเอียดผิวของกล้องตัวนี้ เลยให้นางแบบหันหลังมาเพื่อถ่าย texture หลังนางแบบ

ภาพนี้อยากนำเสนอ Texture ผิวของฝ่ายชายดูบ้าง แต่กลัวภาพจะแข็งเกินไปสำหรับภาพ Wedding เลยให้มือเจ้าสาวมาช่วย นอกจากลดความแข็งของภาพยังทำให้ภาพมีเรื่องราวมากขึ้น

Rap Siam2nite

คุณRap ช่างภาพของ Siam2nite และช่างภาพศิลปิน Restrospect และ Thaitanium 

การจับจังหวะหรืออารมณ์ของคนที่มาปาร์ตี้ ทุก Movement ต้องใช้จินตนาการในการถ่ายทอดออกมา ทำยังไงให้รูปออกมาแล้วคนดูรู้สึกได้ ถึงความสนุกของปาร์ตี้นั้น

– Rap Siam2nite

การฟังเพลงของศิลปินที่ไปถ่ายงาน ช่วยให้เข้าใจสไตล์และ mood & tone ของงานจะออกมาประมาณไหน

ความคมชัดใน ISO ที่สูง สำคัญมากในการถ่ายภาพปาร์ตี้หรือที่แสงน้อย และ Canon EOS 6D Mark II ช่วยได้มากในตรงนี้ 

ระบบโฟกัสที่ดี ทำให้ได้ภาพที่คมชัด บวกกับความโชคดีที่ผู้หญิงคนนี้หันมาเล่นกับกล้องพอดี

มุมมองใหม่ๆ ด้วยหน้าจอที่พับได้ทำให้ถ่ายมุมมองแปลกๆได้ง่าย ภาพนี้เต็มไปด้วยพลังงานและความสนุกของคนในรูป

ใช้เลนส์ระยะไกล (Tele) ถ่ายดีเจ เนื่องจากอยู่ไกลจากเวที ถ้าอยากเก็บอารมณ์ของดีเจ ต้องใช้เลนส์ Tele ซูมเข้าไป ด้วยสมรรถนะของกล้องสามารถเก็บรายละเอียดได้ครบรวมถึงอารมณ์ของดีเจ

อดทนรอ ภาพนี้ได้มาเพราะความอดทน ในการถ่ายเอฟเฟคนั้นต้องรอจังหวะ ซึ่งกว่าจะได้รูปนี้มาก็รอนานพอสมควรแต่ภาพที่ได้มาก็คุ้มค่าที่จะรอ

ถูกที่ถูกเวลา ทั้งดีเจ เอฟเฟค คนดู ทุกพลังงานในคืนนั้นรวมกันอยู่ในภาพนี้ และตำแหน่งที่ยืนอยู่ก็ถูกที่ถูกเวลามาก

ซึ่งนอกจากเทคนิคต่างๆที่ช่างภาพมืออาชีพเหล่านี้มาสอนแล้ว ยังมี Workshop ให้ลองลงมือทำจริงๆอีกด้วย
นำภาพบรรยากาศ Wedding Session มาฝากครับ

บรรยากาศในส่วนของ Nightlife Session ช่างภาพก็ได้ฝึกถ่ายคอนเสิร์ตกันจริงๆ

และเป็นครั้งแรกของโลกที่ใช้กล้อง Full Frame Canon EOS 6D Mark II จำนวนมากในการถ่าย 3 มิติ แบบ 360 องศา ภายใต้การคิดค้นนวัตกรรมจากบริษัทโปร-ทอยส์

หวังว่าเพื่อนๆ คงได้ความรู้ด้านการถ่ายงานแต่งและงานปาร์ตี้กันไปไม่มากก็น้อยนะครับ

ส่วนใครสนใจ Canon EOS 6D Mark II อยากรู้สเปคเต็มๆ อ่านได้ที่นี่