หลังจากที่เราได้อ่านบทความแนะนำอุปกรณ์สำหรับถ่ายสินค้ากันไปแล้ว หลายคนคงติดปัญหาเรื่อง Light Tent หรือเตนท์สำหากใครไม่อยากซื้อ วันนี้เรามาแนะนำการทำเต้นท์ถ่ายภาพสินค้าแบบง่ายๆ ให้เพื่อนๆไปลองทำกันเองครับ
ใครยังไม่อ่านบทความแนะนำอุปกรณ์สำหรับถ่ายสินค้าตามไปอ่านได้
มาดูวิธ
สิ่งที่ต้องมี
กล่อง
ใช้ขนาดเท่าที่คุณต้องการ และสามารถส่องไฟได้สะดวก ผมใช้กล่องสี่เหลี่ยมจตุรัส กล่องลังพวกนี้หาซื้อได้ง่าย ผมเก็บมาจากที่บริษัทที่เขาโยนทิ้งไว้ คุณอาจไปหาตามร้านค้าต่างๆ ส่วนใหญ่เขาจะไม่ใช้แล้ว คุณก็จะได้มันมาฟรีๆ
ผ้า
ผมใช้ผ้าทอสีขาวที่หาได้ตามร้านที่ขายอุปกรณ์หัตกรรมหรือศิลปะต่างๆ ซื้อขนาดที่พอห่อหุ้มกล้องได้ ราคาประมาณ 100 บาท หรือใช้ผ้าไนลอนแทนก็ได้ หากคุณต้องการที่จะประหยัดสุดๆ ก็เอาเสื้อผ้าสีขาวที่คุณมีมาใช้แทนก็ได้ แต่ระวังเรื่องสี อย่าให้สีต่างกัน
เทปกาว
ใช้เทปในการติดผ้ากับกล่อง หากจะเปลี่ยนผ้า ก็สามารถดึงเทปออกแล้วเปลี่ยนได้ เทปกาวราคาประมาณ 30 บาท
กาว
ใช้สำหรับติดกระดาษกับกล่อง ราคาประมาณ 30 บาท
กระดาษสีขาว
ใช้กระดาษแข็งสีขาวมาเป็นฉากหลัง ขนาดตามขนาดกล่อง สามารถใช้สีอื่นๆตามความเหมาะสม
ไฟ
ไฟน่าจะเป็นส่วนที่แพงที่สุดในการทำเต้นท์ถ่ายภาพสินค้านี้ นอกซะจากว่าคุณมีไฟอยู่แล้ว และมันเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการทำเต้นท์ถ่ายภาพสินค้าอีกด้วย หลอดไฟแต่ละประเภทให้สีที่ต่างกัน ระวังเรื่องนี้ให้ดี ควรใช้ไฟที่มีสีขาว หากคุณมีหลอดไฟ หรือโคมไฟสีขาวที่ใช้ทำงานหรืออ่านหนังสือ มันสามารถใช้ได้
อุปกรณ์เบ็ดเตล็ด
เช่นไม้บรรทัด,สายวัด, คัตเตอร์, กรรไกร
อุปกรณ์พร้อมแล้ว เรามาลุยกันดีกว่า !!
- วัดขนาดกล่องให้ห่างจากขอบ 2 นิ้วทั้ง 4 มุม มาร์คจุดไว้แล้วลากเส้นตรง
คุณจะได้เส้น 4 เหลี่ยมที่มีกรอบขนาด 2 นิ้ว
- ใช้คัตเตอร์ตัดที่วาดไว้ ทำทั้ง 4 ด้าน ด้านบนไม่ต้องเว้นขอบ และเว้นด้านล่างไว้ จะได้ประมาณนี้
- วัดขนาดกระดาษแข็งที่จะมาทำเป็นฉากหลังและใส่ลงไปในกล่องให้เป็นโค้งๆ แบบนี้
- ตัดผ้าขาวและติดเทปกาว ห่อด้านบน และด้านข้าง 3 ข้าง เว้นด้านหน้าไว้ถ่ายรูป
- จากนั้นก็ใช้ไฟส่องจากด้านต่างๆ เช่นด้านบน
เสร็จเรียบร้อย เท่านี้คุณก็จะได้เต้นท์ถ่ายภาพสินค้า ฝีมือคุณเองแล้ว
หากคุณเจอปัญหาเรื่องเงาก็ใช้ไฟอีกดวง เปิดเงา หากมีปัญหาเรื่องขอบดำ (vignett) ให้ใช้เลนส์ฮูด หรือ ถ่ายเข้าใกล้กล่องมากขึ้น หรือให้ Photoshop ช่วยอีกแรงนึงก็ได้ ปรับ Level เพื่อให้สว่างขึ้น
ตัวอย่างภาพที่ได้
หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่ชอบถ่ายสินค้า ลองทำกันดูนะครับ
credits: Darren Rowse
