
รัฐราชสถาน ดินแดนแห่งพระมหากษัตริย์ ด้วยคฤหาสน์ที่วิจิตรงดงาม ภาพมุมสูงเหนือนครชัยปุระ เมืองสีชมพู เมืองสีฟ้า และเทศกาลอูฐอันยิ่งใหญ่แห่งเมืองพุชการ์ สิ่งเหล่านี้ทำให้ดึงดูดช่างภาพจากทั่วโลกเพื่อไปบันทึกภาพซักครั้ง

นอกจากเป็นวันแรกของทริปนี้ ยังเป็นครั้งแรกของผมที่ได้มาสัมผัสประเทศอินเดีย อย่างแรกที่สัมผัสได้เมื่อลงจากเครื่องบินมาขึ้นรถคือ การคมนาคมที่นี่ค่อนข้างหวาดเสียว บีบแตรกันตลอด คุณจะรักหูฟังตัวโปรดของคุณขึ้นมาอีกหลายเท่า ไม่มีไฟจราจร มีพาหนะหลากหลาย รู้สึกตื่นเต้น และคิดว่าเหมาะกับสายสตรีทมากๆเลย เสียดายไม่ใช่ทางผมเท่าไหร่นัก

นครชัยปุระ คือเมืองแรกที่เราไปกัน บางคนเรียกที่นี่ว่าเมืองสีชมพู แต่ผมขอเรียกมันว่า “เมืองเปลี่ยนรูปโปรไฟล์” เพราะมาที่นี่ได้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์แน่นอน สถาปัตยกรรมที่นี่สวยงามมาก เมื่อมีคนมาเป็นแบบ อาคารเหล่านั้นก็ทำหน้าที่เป็นพื้นหลังที่สวยงาม สิ่งที่ต้องทำคือตัวแบบตัองแต่งตัวให้เข้ากับสถานที่ซะหน่อย เล็งมุมดีๆก็ได้ภาพสวยๆไม่ยากครับ



ไม่มีนางแบบไปด้วย ก็ไม่เหงาครับผู้คนที่นี่แต่ละคนดูน่าสนใจไปหมด และที่สำคัญเขายินดีให้เราถ่ายรูปครับ

เดินมาเรื่อยๆจนถึงพระราชวังแห่งสายลม ชื่อสวยงามมาก แต่รู้ไหมจริงๆแล้วมันเคยเป็นฮาเร็มของมหาราชา ซึ่งสามารถถ่ายภาพได้จากด้านนอก หรือเข้าไปถ่ายด้านในก็สวยงาม

ถ้าอยากได้ภาพตรงติดบัตรแบบนี้ ก็ต้องไปร้านกาแฟอีกฝากของถนน ซึ่งมีหลากหลายร้านให้เลือก ราคาไม่แพงเลยครับแก้วละไม่ถึงร้อยบาท กินกาแฟชิวๆ ถ่ายรูปเพลินๆกันไป

เข้ามาในตัวพระราชวังสายลม มีจุดถ่ายรูปมากมายพอกับฝูงชนที่เข้ามาถ่ายภาพ ต้องรอจังหวะไม่มีคน แล้วให้นางแบบเดินสวยๆ ทำให้ภาพดูไม่รก

ยามอาทิตย์อัสดงเรามุ่งตรงไปที่ป้อมนหาร์การห์ หากคิดว่าชื่อนี้อ่านยากคุณไม่ได้คิดแบบนั้นคนเดียวแน่นอน มันมีอีก 1 ชื่อเล่นเรียกว่าป้อมไทเกอร์ก็ได้ เป็นป้อมที่ช่วยปกป้องเมืองชัยปุระ ที่นี่เหมาะกับการถ่ายรูปแสงเย็น แต่หามุมถ่ายยากมาก ขาตั้งก็ใช้ไม่ได้ โชคดีที่ทีมงาน photo specialist ของ fotojourney คอยแนะนำจนได้รูปมาครับ

ก่อนกลับที่พัก เราแวะมาสำรวจ พระราชวังฤดูร้อน (Jal Mahal) ที่เราจะมาถ่ายรูปในตอนเช้า ผมถ่ายช่วง Blue Hour ตัดกับสีเหลืองของพระราชวังก่อน ทำให้ดูเด่นขึ้นมาครับ

แสงเช้าในวันที่ 2 เรารอกันอยู่ที่พระราชวังฤดูร้อน (Jal Mahal) บรรยากาศดีวิวสวยมากครับ มีนกบินและเล่นน้ำ ที่นี่เหมาะแก่การมาชมแสงเช้ามาก รูปด้านบนนี้เราสังเกตว่านกจะบินมาแนวนี้บ่อยๆ เลยให้นางแบบโพสต์ท่าค้างไว้ และรอจังหวะนกบินมากครับ

ภาพนี้จัดองค์ประกอบแบบสมมาตร เงาสะท้อนด้านล่าง และรอจังหวะที่นกว่ายน้ำมาตรงส่วนที่สว่างเพื่อดึงดูดสายตามากขึ้น

ปกติเรามักจะคุ้นกับการขี่ช้างในป่า แต่ที่อินเดียเราขี้ช้างชมพระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ด หรือถ้าคิดว่าอยู่บนช้างถ่ายรูปลำบากก็เดินไปได้ครับ ไม่ไกลมาก

ด้านในพระราชวังมีสาวอินเดีย จริงๆเลยคำว่าสาวมาซักระยะแล้วล่ะ โพสท่าสวยงามให้เราถ่าย เราถ่ายเสร็จมาขอเงินจ้า แล้วแต่จะบริจาคนะ

ทริปนี้โชคดีมีสาวสวยโพสต์ท่าเก่งหลายคนให้เราถ่ายรูป พรอปพร้อมมาก

เย็นวันที่ 2 นี้เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก เป็นครั้งแรกที่เจออูฐ เราไปกันที่เทศกาลอูฐเมืองพุชการ์ เทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่ติด 1 ใน 10 เทศกาลที่โด่งดังที่สุดของโลก ขี่รถที่อูฐลากไป ขรุขระนิดหน่อย แต่สนุกดีครับ

ชมวิถีชีวิตของคนแถบนี้ แต่มาทั้งทีต้องถ่ายกับอูฐครับ


นาฬิกาปลุกยามตีสี่ของวันที่ 3 เรายังอยู่ที่เทศกาลอูฐ มากันตั้งแต่ตีสี่กว่าๆ มาถึงก่อนเวลาก็ถ่ายรูปเล่นๆช่วง Blue Hour ครับ


พอแสงเริ่มสาดสองมายังเมืองพุชการ์แห่งนี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงชัตเตอร์ นอกจากการเซลฟี่กับอูฐแล้ว บรรยากาศวิถีชีวิต เช่นพ่อค้าอูฐนั่งรอลูกค้า การซื้อขายกัน ก็ดูน่าสนใจไม่แพ้กัน





ไม่ไกลกันนักก็มีทะเลสาบพุชการ์ ช่วงนี้เป็นช่วงพิธีที่คนหลั่งไหลไปเยอะมาก มีคนมาอาบน้ำชำระล้างตัวที่นี่อย่างไม่ขาดสาย

ตีสี่อีกครั้ง ไม่ใช่ชื่อเพลงของพี่เสกแต่อย่างใด แต่เป็นเวลาที่คุ้นเคยที่ต้องตื่นไปถ่ายแสงเช้า เราอยู่กันที่จ๊อดปูร์แล้ว เมืองสีฟ้าน่าถ่ายรูปมาก วันนี้มีทั้งถ่ายวิว คน และสตรีทเลยครับ

มาถึงป้อมเมห์รานการห์ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ป้อมและพระราชวังในใหญ่ที่สุดในอินเดียช่วงตีห้าครับ เห็นเส้นสายถนนก็อยากถ่ายเส้นแสงไฟด้านล่าง น่าเสียดายรถน้อยไปนิดครับ

ดวงอาทิตย์เริ่มออกมาทักทายกับปราสาท ใจนี่คิดว่าแสงจะต้องกระทบกับปราสาทสวยๆ เปล่าเลย แสงไม่แข็งมาก เพราะฝุ่นเยอะครับ ทำให้ไม่ได้แสงเงาตามที่คาดไว้

พิกัดที่ถ่ายรูปกันเพื่อจะให้ได้มุมดีๆ ก็มีหวาดเสียวกันเล็กน้อย

ขี่ช้าง ขี่อูฐ ที่นี่ก็ไม่เร้าใจเท่าได้นั่งตุ๊กๆที่อินเดีย บอกเลยว่าต้องนั่งซักครั้งในชีวิต แต่ไม่เหมาะสำหรับคนเป็นโรคหัวใจนะครับ

เรามาชมในตัวเมืองสีฟ้า ทุกอย่างดูแออัด ซอกซอยย่อยเยอะมาก เราเดินเกาะกลุ่มกัน เพราะแยกกันอาจลงกันได้





ยามเย็นเราไปชมแสงเย็นกันที่ป้อมเมห์รานการห์ ซึ่งมีสถาปัตยกรรมสวยงาม พร้อมชมวิวมุมสูงของเมืองสีฟ้าแห่งนี้



เมืออาทิตย์ลาลับขอบฟ้า เรามาทานเมื้อเย็นพร้อมชมวิวป้อมเมห์รานการห์ ยามค่ำคืน เป็นวิวที่ประทับใจมาก

วันสุดท้ายของการเดินทาง เรามารอแสงเช้าที่ป้อมเมห์รานการห์ ทางขึ้นมายังจุดนี้ลึกลับ เข้าซอกซอยเยอะมาก แต่ทีมงาน FOTOJOURNEY ก็พาเรามาถึงครับ

ชมเมืองสีฟ้าอาบแสงสีทองในยามเช้า ดื่มดำกับบรรยากาศ เก็บช่วงเวลาดีๆนี้ในเมมโมรี่การ์ดและเมมโมรี่ตัวเราเอง

ตอนเที่ยง เราเดินทางต่อมาที่ Step Well แห่งจ๊อดปูห์ ด้วยตุ๊กๆอินเดียคู่ใจ ถ่ายรูปเล็กน้อย หลังจากนั้นก็เป็นเวลาช้อปปิ้ง ซื้อของก่อนกลับ หรือใครจะถ่ายรูปเล่นแถวตลาดก็ไม่ว่ากัน


นอกจากมีช่างภาพมืออาชีพสอนตลอดทริป มากับ FOTOJOURNEY อยู่ดีกินดีมาก กินบุฟเฟต์ทุกมื้อ ที่พัก 4-5 ดาวทุกคืน รถ 2 ที่นั่งต่อ 1 คน สะดวกกับการวางกระเป๋ามาก เรียกได้ว่าเที่ยวสบาย ได้รูปสวยๆกลับบ้านแน่นอน


หวังว่าเพื่อนๆ บทความนี้คงพอเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ ไปถ่ายรูปที่รัฐราชสถาน ได้ไม่มากก็น้อย ทริปต่อไปเราไปที่ไหนกัน อย่าลืมติดตามชมกันนะครับ