เปรียบเทียบ GoPro HERO 10 Black VS GoPro HERO 11 Black ซื้อตัวไหนดี?

0
gopro 10 vs gopro 11
gopro 10 vs gopro 11

GoPro HERO 11 Black ออกมาใหม่ แล้วมันต่างอะไรกับ GoPro HERO 10 Black ? ซื้อตัวใหม่เพื่อเอาฟีเจอร์ใหม่ หรือซื้อ GoPro HERO 10 Black จะคุ้มกว่าไหม ถ้าเพื่อนๆมีคำถามเหล่านี้ในใจ เดี๋ยวผมจะพาไปเจาะลึกรายละเอียดความแตกต่างของ GoPro HERO 10 Black และ GoPro HERO 11 Black กัน

เซนเซอร์

GoPro HERO 10 Black ใช้เซนเซอร์ 1/2.3 CMOS ความละเอียด 23 ล้านพิกเซล
GoPro HERO 11 Black ใช้เซนเซอร์ 1/1.9 CMOS ความละเอียด 27 ล้านพิกเซล

หลังจากได้ลองใช้งานการรับแสงหรือความละเอียดไม่ได้ต่างอะไรกันอย่างมีนัยสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญคือ ความสูงของภาพและวิดีโอที่เป็น 8:7 เรื่องของภาพไม่เท่าไหร่ แต่วิดีโอคือตอบโจทย์การใช้งานผมจริงๆ เพราะสัดส่วนนี้คือถ่ายวิดีโแอครั้งเดียวเอามาครอปเป็นแนวตั้ง และแนวนอนได้อย่างสวยงาม จุดนี้ต้องชม GoPro HERO 11 Black จริงๆ เพราะปกติถ่ายวิดีโอ 16:9 ถ้าจะลงวิดีโอแนวตั้งต้องมาครอปออก วิดีโอจะแน่นมาก ลองชม ตย.กันครับ

ครอปวิดีโอจาก 16:9 เป็นแนวตั้งจะแน่นเกินไป

ครอปจาก 8:7 เป็นแนวตั้ง จะดูไม่แน่น องค์ประกอบดีกว่า

แต่รุ่นใหม่ก็สามารถถ่ายในสัดส่วนเดิมได้นะ

เลนส์

GoPro HERO 10 Black ใช้เลนส์ 16mm f2.80 กว้างสุดที่ SuperView 

GoPro HERO 11 Black ใช้เลนส์ 12mm f2.80 กว้างสุดที่ HyperView จะกว้างกว่าเดิม

ความละเอียดวิดีโอ

GoPro HERO 10 Black ความละเอียด 5.3K – 5120 x 2880

GoPro HERO 11 Black ความละเอียด 5.3K – 5312 x 2988

UI เมนูการใช้งาน

GoPro HERO 11 Black มีการออกแบบ UI โหมดใหม่ คือ Easy Mode เพื่อให้สะดวกกับการใช้งานมากขึ้น แต่ใครที่เคยใช้รุ่นก่อนๆมาแล้วอาจรู้สึกไม่ค่อยถนัด หรือควบคุมได้ไม่ค่อยลึก ก็สามารถไปใน UI แบบโปร เหมือนเดิมได้ (ผมก็เลือกใช้แบบเดิม)

สีในวิดีโอ

GoPro HERO 10 Black ถ่ายวิดีโอได้แค่ 8 บิต สามารถแสดงผลได้ 16.7 ล้านสี

GoPro HERO 11 Black ถ่ายวิดีโอได้แค่ 10 บิต สามารถแสดงผลได้ 1.07 พันล้านสี

มองด้วยตาเปล่าหลังจออาจไม่เห็นความต่างมากนัก แต่ 10 บิตเวลาไปทำสี หรือ post process จะให้ความละเอียดที่มากกว่ายืดหยุ่นกว่า

Timelapse

รุ่นใหม่จะถ่ายมีโหมดถ่าย Light Paint, Star Trail, แสงสีรถ ที่เน้นถ่าย Long Exposure เอาจริงๆรุ่นเก่าก็ถ่ายได้นะแต่ GoPro HERO 11 Black จะทำเมนูแยกมาเลยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

กันสั่น

GoPro HERO 10 Black มีกันสั่น HyperSmooth 4.0

GoPro HERO 11 Black มีกันสั่น HyperSmooth 5.0 มี Auto Boost ด้วย

เอาเข้าจริงผมเลิกซีเรียสเรื่องกันสั่นตั้งแต่ 2-3 รุ่นก่อนหน้านี้แล้ว เพราะ GoPro ทำกันสั่นมาดีมากๆมาหลายรุ่นแล้ว แต่ที่น่าสนใจก็คือ Horizon Lock คือหากเราหมุน GoPro ไปเป็นแนวตั้ง วิดีโอก็ยังล็อคเส้นขอบฟ้าไว้ให้ ไม่หมุนตามอันนี้เจ๋งมาก

การถ่ายใต้น้ำ

ทั้ง 2 รุ่นลงในน้ำได้ลึกประมาณ 10 เมตร แต่ถ้าใส่ Housing จะลึกได้ประมาณ 30 เมตร

หากถ่ายในน้ำบ่อยๆผมไม่แนะนำให้ซื้อ รุ่นก่อนหน้า GoPro HERO 10 Black นะ เพราะกระจกกันนั้นด้านหน้าเริ่มมีตั้งแต่ GoPro HERO 10 Black เป็นต้นมา การถ่ายมีหยดน้ำเกาะหน้าเลนส์เป็นเรื่องน่าหงุดหงิดมาก

แบตเตอรี่

GoPro HERO 11 Black สามารถใช้แบตของ GoPro HERO 10 Black และ GoPro HERO 9 Black ได้ แต่ GoPro HERO 11 Black ก็มาพร้อมกับแบตใหม่ที่ทนต่อสภาพอากาศดีได้กว่าเดิมชื่อว่า Enduro Battery

จริงๆความจุของแบตเตอรี่เท่ากันนะ แต่หากไปใช้สภาพอากาศที่โหดๆ เช่นที่หนาวมากๆ แบตปกติจะหมดไว แต่ Enduro Battery จะทนกว่าในจุดนี้

สิ่งที่เหมือนกัน

ขนาด รูปร่างเหมือนกันใช้อุปกรณ์เสริมต่างๆอันเก่าได้เลย

ISO 100-6400 เหมือนกัน

หน้าจอ 2.27 นิ้ว เหมือนกัน

ถ่าย Slo-mo ได้สูงสุดที่ 240 fps

การกันน้ำเหมือนกัน

ราคา

GoPro HERO 10 Black เปิดตัวที่ 16,500 บาท

GoPro HERO 11 Black เปิดตัวที่ 18,500 บาท

ข้อสังเกต

การถ่ายวิดีโอ 8:7 มีข้อดีมากอย่างที่บอกตั้งแต่ต้น แต่ความละเอียดขั้นต่ำที่ถ่ายได้คือ 4K 60p อันนี้

ชมวิดีโอการนำ GoPro HERO 11 Black ไปลองถ่ายคอนเทนต์จริงๆ

GoPro HERO 10 Black vs GoPro HERO 11 Black ควรซื้อรุ่นไหนดี

ถ้าคุณเป็นสายคอนเทนต์ ที่ต้องลงหลายรูปแบบหลายแพลตฟอร์ม และอยากให้งาน Horizon Lock รวมถึงสีวิดีโอที่ดีกว่าเดิมแนะนำให้ไป GoPro HERO 11 Black เลยครับ แต่ถ้าคิดว่าที่กล่าวข้างต้นไม่จำเป็น ก็เลือก GoPro HERO 10 Black ได้