Simen Johan ช่างภาพ fine art และ นักประติมากรฝีมือดี ชาว สแกนดิเนเวีย ผู้ที่สร้างผลงานแหวกแนวมาสองทศวรรษแล้ว งานนิทรรศการครั้งล่าสุดของเขาคือ Until the Kingdom Comes ที่แสดงถึงสัตว์ในมุมมองใหม่ๆ โดยนิทรรศการจัดที่ Yossi Milo Gallery นิวยอร์ค
เรานำบทสัมภาษณ์ที่ Ken Weingart ได้สัมภาษณ์เขามาฝากกันครับ
คุณเริ่มถ่ายสัตว์เมื่อไหร่ และทำไม?
ประมาณปี 2005 สัตว์และเด็กๆเป็นอะไรที่ผมชอบถ่าย มันไม่ต้องเสเสร้ง มันเป็นไปตามสันชาตญาน มันใกล้เคียงกับความบริสุทธิ์ และผมให้ความสำคัญกับ connection ในการจัดองค์ประกอบมาก
คุณถ่ายด้วยกล้องอะไร และภาพใหญ่สุดที่เคยพิมพ์ออกมาขนาดเท่าไหร่?
ผมถ่ายหลายกล้อง หลา ยFormat แต่กล้องหลักจะเป็น Hasselblad 503CW ภาพใหญ่สุดที่เคยพิมพ์ยาว 14 ฟุต
ภาพของคุณพิมพ์จำนวนจำกัดอยู่ที่เท่าไหร่?
4-6
อุปกรณ์จัดแสงที่คุณใช้ คุณเลือกมันอย่างไร หรือเอาสัตว์เขามาในสตูดิโอ?
ส่วนมากผมจะใช้แสงธรรมชาติ บางครั้งก็หาอะไรที่ในสวนสัตว์นั้นมีอยู่ ผมเคยนำนกเข้ามาถ่ายในสตูดิโอ และใช้แสงแฟลช เพื่อจับการเคลื่อนไหวมัน
คุณติดต่อกับ Yossi Milo อย่างไร ทำไมถึงได้ไปจัดงานนิทรรศการที่นั่น?
Yossi เห็นผลงานของผมในกลุ่มที่แสดงผลงานที่ Alternative Museum ตอนปี 1999
คุณหาสัตว์ที่ไหน มีกระบวนการทำงานที่ยากไหม?
ผมไม่มีแผนในการถ่ายสัตว์และธรรมชาติ เพราะเมื่อคุณเข้าไปหาอะไรคุณก็จะได้อันนั้นกลับมา ผมเข้าสวนสัตว์ถ่ายรูปในฐานะนักท่องเที่ยวทั่วไป ผ่านกรงผ่านกระจกใส ในป่าก็เข้าไปหาที่ๆมีสัตว์และเข้าใกล้มัน กล้องผมใหญ่และช้า เงื่อนไขของแสงที่ได้ ไม่เคยได้ตามอุดมคติ
คุณมาจากนอร์เวย์และสวีเดน คุณคิดถึงที่นั่นไหม และชอบอะไรใน อเมริกา?
ผมมาจากนอร์เวย์และแม่ผมมาจากสวีเดน และมีเหตุผลบางอย่างที่เราย้ายมาที่นี่ ผมคิดถึงเพื่อน ครอบครัว อาหาร และหลายๆอย่าง ผมชอบความหลากหลายทางวัฒนธรรมของนิวยอร์ค
คุณสร้างประติมากรรมของคุณได้อย่างไร และช่วยอธิบายมันหน่อยได้ไหม?
จากนิทรรศการล่าสุดของผม ผมปั้นมนุษย์ 4 ขา เป็นรูปร่างที่มาจากดินเหนียว และเกี่ยวกับลัทธิความเชื่อบางอย่าง มีการระเบิดออกเป็น 2 ส่วน มันสามารถตีความได้กว้าง ส่วนตัวผมมองว่า มันเป็นรูปสลักที่แสดงถึงพัฒนา เป็นส่วนหนึ่งของเรา ซึ่งพัฒนามาจากน้ำ มาจากดิน มาจากสี่ขา มาเป็นสองขา ในช่วงเวลาล้านปีที่ผ่านมา
คุณเรียนประติมากรรมมาอย่างไร คุณชอบอะไรมากกว่าระหว่างถ่ายภาพ และ ประติมากรรม
ประติมากรรมงอกเงยมาจากความปรารถนาที่จะจัดนิทรรศการ นำผลงานและความคิดออกมาสู่โลกที่จับต้องได้ วิธีที่ผมทำประติมากรรม เหมือนกับที่ผมถ่ายรูป เพิ่มและลดองค์ประกอบบางอย่างจนกระทั่งได้รูปที่สมบูรณ์
คุณใช้วัสดุอะไรในการปั้น และใช้เวลาปั้นนานแค่ไหน?
ผมใช้หลายวัสดุไม่ว่าจะเป็นเซรามิค ซีเมนต์, เพรียง, ซากสัตว์, ขน และ ใบไม้ มันใช้เวลาน้อยกว่าถ่ายรูป เพราะไม่มีกระบวนการ pre และ post production ไม่มีที่ว่างให้ความผิดพลาด
คุณเคยถ่ายภาพเด็ก ช่วยเล่าเรื่องนั้นให้ฟังหน่อยได้ไหม?
เมื่อผมย้ายมานิวยอร์ค ผมก็เริ่มถ่ายภาพเมื่ออายุ 19 ปี เมื่อมองกลับไปดูงานเหล่านั้น มันสะท้อนถึง ความอึดอัด ความโดด เมื่อเข้ามาเมืองใหญ่ แต่ในที่สุดงานก็ได้รับความสนใจมากขึ้นด้วยจินตนาการ และสัญชาตเกี่ยวกับพิธีกรรมและการสำรวจ
คุณไม่ได้ทำงานเชิงพาณิชย์แล้วใช่ไหม คิดถึงมันไหม?
ผมไม่เคยทำงานเชิงพาณิชย์ แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้ถ่าย Ads โฆษณาบ้างมันสนุกดีและได้เงินเยอะด้วย
อะไรเป็นความต่างระหว่างการถ่ายเชิงพาณิชย์และ fine art?
เชิงพาณิชย์คือถ่ายภาพไปขาย ส่วน art คือ ถ่ายอะไรที่ผมชอบ
งานพวก Fine art ขายได้ยากไหม?
ส่วนใหญ่ยาก ส่วนน้อยง่าย
ภาพชุด “Evidence of Things Unseen” ของคุณเกี่ยวกับอะไร ?
เป็นภาพชุดที่แสดงถึงเด็ก, ความคิดสร้างสรรค์ , การเล่น, ศาสนา และวิทยาศาสตร์
คุณยังต้องการถ่ายฟิล์มอยู่หรือเปล่า?
ใช่
คุณคิดว่าจะเปิดสอนบ้างไหม?
คิดอยู่เหมือนกัน
คุณใช้ Photoshop ทำอะไรบ้าง มีประมาณกี่เลเยอร์?
หลักๆผมใช้ Lasso , paintbrush และ masking น้อยครั้งที่จะใช้ filter นอกจากทำให้ เบลอ และชัด และมีหลายเลเยอร์เกินกว่าจะนับ
คุณใช้เวลาสร้างภาพขึ้นมานานแค่ไหน?
โดยทั่วไป 2 ปี ทำการเพิ่มและลดองค์ประกอบตามที่คิดไว้ หรือ รอโอกาสที่จะได้มีภูมิทัศน์สวยๆ หรือ สัตว์แสดงตัวมันออกมา
คุณเรียนรู้ Photoshop จากไหน มีหนังสือเล่มไหนที่ชอบไหม?
ก่อนที่ photoshop จะเป็นส่วนหนึ่งของการหลักสูตรกราฟฟิคดีไซน์ที่ผมเรียน ผมต้องเรียนรู้มันด้วยตัวเอง
โรงเรียนสอนศิลปะมีความสำคัญอย่างไร?
ในโรงเรียนทุกคนวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมากต่องานของผม แต่ข้างนอกโรงเรียนผู้คนเสแสร้งว่างานของคุณเจ๋ง
คุณมีไอเดียในงานชิ้นต่อไปอย่างไร?
ยังไม่ได้วางแผน
credits: Simen Johan | Ken Weingart | petapixel