ท้าเที่ยวข้ามภาคกับกิจกรรมประกวดภาพถ่าย “ลองมอง เมืองรอง” มาเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบใหม่ในสไตล์ที่ไม่เหมือนใครกับกิจกรรมการประกวดภาพถ่ายในหัวข้อที่คุณต้องอ่านซ้ำอย่างน้อยสองรอบ คือ “ลองมอง เมืองรอง” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ปลุกความท้าทายในตัวคุณให้รู้สึกฮึกเหิมอย่างบ้าพลังในมุมมองการท่องเที่ยวแบบใหม่ของเมืองรอง ใน 55 จังหวัด ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย
เอ๊ะ! แล้วเมืองรองคืออะไร ?
ต้องบอกก่อนว่าในประเทศไทยของเราปัจจุบันมีทั้งหมด 76 จังหวัด เมืองรองก็คือเมืองที่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวหลัก แต่มีเอกลักษณ์ประจำถิ่น มีประเพณี แหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรมที่งดงามยิ่ง หากได้ลองเที่ยวเมืองรองแล้ว รับรองจะประทับใจไม่รู้ลืม
กิจกรรมการประกวดถ่ายภาพ “ลองมอง เมืองรอง” เราอยากท้าท่านออกไปเที่ยวข้ามภาคไปยังเมืองรอง ร่วมกันถ่ายทอดวิถีชีวิตที่สะท้อนถึงความเป็นไทยจากชุมชนโดยผ่านความคิดสร้างสรรค์ในมุมมองที่แปลกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมของชุมชนหรืองานประเพณีไทย วิถีความเป็นไทยจากอาหารที่รสชาติของอาหารไทยไม่เคยแพ้ชาติใดในโลก
โดยแสดงถึง
- วิถีชีวิตในชุมชนท่องเที่ยว
- วิถีแห่งอาหารพื้นถิ่น
- วิถีจากกิจกรรมหรืองานประเพณีในท้องถิ่น
“จะช้าอยู่ไย” เก็บกล้องใส่กระเป๋าแล้วออกเดินทางข้ามภาคถ่ายทอดเรื่องราวเมืองรองด้วยภาพของคุณ กับมุมมองที่แปลกใหม่ ลองมอง เมืองรอง ที่จะทำให้ เมืองรอง ไม่เป็นสองรองใคร อีกต่อไป
“ไม่รู้ว่าปลายทางจะเป็นอย่างไร แต่ระหว่างทางมีเรื่องสวยงามให้เราจดจำเสมอ เพียงลองออกเดินทาง”
คุณสมบัติผู้เข้าร่วมประกวด
- นักท่องเที่ยวชาวไทย ไม่จำกัดเพศ อายุ 18-35 ปี
กติกา
เพื่อให้การประกวดภาพถ่าย หัวข้อ “ลองมอง เมืองรอง” เป็นเวทีการประกวดที่คงไว้ซึ่งมาตรฐานสูงสุด และต้องการมุ่งเน้นให้ผู้ส่งภาพเข้าประกวดสร้างสรรค์ผลงานที่แปลกใหม่ไม่ซํ้าเดิม ทั้งในด้านของมุมมอง และแนวความคิด คณะกรรมการจัดงานประกวด จึงบัญญัติกติกาที่ผู้ส่งเข้าประกวดจะต้องปฏิบัติตาม อย่างเคร่งครัด ดังต่อไปนี้
- ผู้มีสิทธิ์เข้าประกวดต้องมีอายุระหว่าง 18-35 ปีบริบูรณ์เท่านั้น โดยกรอกใบสมัครพร้อมรายละเอียดที่ถูกต้องตามหลักฐานในบัตรประชาชน ทางเว็บไซต์ของนิตยสาร อ.ส.ท. www.osothomagazine.com
- ภาพถ่ายที่ส่งประกวดจะต้องถ่ายในจังหวัดที่ไม่ได้อยู่ในภูมิภาคเดียวกับภูมิลําเนาที่ ปรากฏในบัตรประประชาชน เช่น ในบัตรประชาชนระบุที่อยู่เป็นจังหวัดชุมพร ภาพที่ส่งเข้าประกวดจะต้องไม่ใช่ภาพถ่ายในจังหวัดทางภาคใต้ เป็นต้น หากภาพใดไม่ถูกต้องและครบถ้วนจะถูกตัดสิทธิ์ในการส่งเข้าร่วมประกวด
- ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด เป็นภาพถ่ายสีมีความละเอียดไม่น้อยกว่า 6 ล้านพิกเซล มีขนาดด้านที่สั้นที่สุดไม่ตํ่ากว่า 2,400 pixels และด้านที่ยาวที่สุดไม่เกินกว่า 4,800 pixels ที่ถ่ายโดยการใช้กล้องDigital เช่น DSLR,Mirrorless,Compact (ภาพถ่ายจากDrone ต้องแนบเอกสารการลงทะเบียนที่รับรองจาก กสทช. ด้วย) และเป็นภาพถ่ายที่ถ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 – 31 กรกฎาคม 2561 เท่านั้น
- ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดสามารถส่งผลงานภาพถ่ายได้ไม่เกิน 5 ภาพ พร้อมตั้งชื่อภาพ
บอกสถานที่ และบรรยายภาพสั้น ๆ โดยอัดภาพจริงขนาด 12 x 18 นิ้ว
ติดฟิวเจอร์บอร์ด พร้อมบันทึกไฟล์ภาพลงในแผ่น CD – ROM ในรูปแบบไฟล์ RAW
หรือ .jpg เท่านั้นและต้องไม่มีลายนํ้า เครดิตภาพ ตัวอักษรหรือกราฟฟิกใด ๆ
ลงบนภาพ - ภาพที่ส่งเข้าประกวดสามารถปรับแต่งได้ตามความเหมาะสม
แต่ต้องไม่ตัดต่อภาพถ่ายให้ผิดเพี้ยนจากความเป็นจริง - ภาพที่ส่งเข้าประกวดต้องไม่เคยได้รับรางวัลจากการประกวดใดมาก่อน และต้องไม่ใช่ภาพที่เคยส่งขายในคลังภาพ (Stock Photo) ทั้งไทยและต่างประเทศ
- ผู้ส่งภาพต้องรักษาไฟล์ต้นฉบับก่อนปรับแต่งและหลังปรับแต่งในความละเอียดสูง (RAW/JPEG) โดยกรรมการสามารถเรียกขอไฟล์ภาพดังกล่าวได้
- คณะกรรมการตัดสินภาพถ่าย พนักงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และช่างภาพผู้เคยผ่านการตีพิมพ์ลง อนุสาร อ.ส.ท. ไม่มีสิทธิ์ในการส่งภาพถ่าย เข้าประกวดในครั้งนี้
- ไฟล์ภาพถ่ายทุกไฟล์ที่ส่งเข้าประกวด อนุสาร อ.ส.ท.จะไม่ส่งคืนให้ผู้เข้าร่วมประกวด โดย อนุสาร อ.ส.ท. และ ททท. มีสิทธิในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ภาพถ่ายเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่าง ๆ เป็นเวลา 1 ปี นับจากวันที่ประกาศผลการตัดสิน รวมไปถึงมีสิทธิ์นําภาพถ่ายไปจัดพิมพ์สูจิบัตร และเอกสารสิ่งพิมพ์ของโดยใส่เครดิตภาพไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ แก่เจ้าของลิขสิทธิ์ภาพถ่ายนั้น ๆ
- หากปรากฏว่า ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดเจตนาฝ่าฝืนกติกา ข้อใดข้อหนึ่งที่กําหนดไว้ข้างต้นนี้ เช่น การเหยียดผิว ถูกละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ฯลฯ ทางคณะกรรมการมีอํานาจในการตัดสิทธิ์ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดผู้นั้นโดยมีโทษ ตั้งแต่การตัดสิทธิ์ในการประกวด การเพิกถอนสิทธ์ในทุกรางวัล จนถึงโทษขั้นสูงสุด ไม่ให้มีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมของอนุสาร อ.ส.ท. และททท. เป็นระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการอํานวยการได้มีมติตัดสิทธิ์ภาพถ่ายนั้น ๆ ทั้งนี้หากผู้ส่งภาพเข้าประกวดที่เจตนากระทําผิดกติกาในภาพถ่ายใดภาพถ่ายหนึ่ง แต่ได้ส่งภาพถ่ายอื่นเข้าร่วมประกวดด้วย แม้ภาพถ่ายเหล่านั้นจะไม่ผิดกติกา ก็จะถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้รับรางวัลใด ๆ ด้วย ส่วนข้อผิดพลาดอื่นๆ ที่มิได้เกิดจาก เจตนาทุจริต เช่น การกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน การส่งภาพถ่ายผิดขนาดหรืออื่น ๆ คณะกรรมการอาจตัดสินให้ภาพถ่ายนั้นเป็นโมฆะตามแต่กรณี
- ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดไม่มีสิทธิ์อ้างว่ากระทําผิดเพราะอ่านกติกาไม่ครบถ้วน และการตัดสินของคณะกรรมการ ถือเป็นที่สิ้นสุด 6 7 8 9 10 11 สอบถามเพิ่มเติมและติดตามรายละเอียดได้ที่ Website
รางวัล
- รางวัลชนะเลิศ มูลค่ารางวัล 50,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศและสมาชิก อนุสารอ.ส.ท.1 ปี
- รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 มูลค่ารางวัล 30,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศและสมาชิก อนุสารอ.ส.ท.1 ปี
- รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 มูลค่ารางวัล 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศและสมาชิก อนุสารอ.ส.ท.1 ปี
- รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่3 จํานวน 10 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 5,000 บาท พร้อมสมาชิก อนุสาร อ.ส.ท. 1 ปี
หมายเหตุ ภาพที่ได้รับรางวัลจะนํามาพิจารณาคัดเลือกจัดทําปฏิทินอ.ส.ท.ปี 2562
วิธีการสมัคร
- กรอก ใบสมัครเข้าร่วมกิจกรรม ที่นี่
- ปิดรับสมัคร อาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม 2561 เวลา 18.00 น.
- ติดตามผลงานที่ผ่านเข้ารอบ 50 ภาพสุดท้าย ได้ที่เว็ปไซต์ www.osothomagazine.com และเพจ อนุสาร อ.ส.ท.
กําหนดส่งภาพ
ส่งภาพเข้าประกวดได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 กรกฎาคม 2561
ได้ด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ (ถือวันประทับตราไปรษณีย์ วันที่ 31 กรกฎาคม 2561)
ได้ที่ สํานักงานอนุสาร อ.ส.ท. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชั้น 8 เลขที่ 1600
ถนนเพชรบุรี แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
วงเล็บมุมซองว่า (ประกวดภาพถ่าย ลองมอง เมืองรอง)
การตัดสินและการประกาศผลรางวัล
คัดเลือก 50 ภาพที่เข้ารอบสุดท้าย เผยแพร่ทางโซเชียล มีเดีย
เพื่อให้คะแนน Popular Vote วันที่ 10 สิงหาคม 2561
ตัดสินภาพและประกาศผลภาพที่ได้รับรางวัลชนะการประกวด 13 ภาพ
วันที่ 30 สิงหาคม 2561
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ดาวน์โหลดกติกา
กลุ่ม OsotoPhotoContest