รีวิวมือถือกล้องคู่ Zenfone Zoom S : Catch The Moment เก็บทุกความทรงจำ

0

“Catch The Moment” เป็นคำนิยามของ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ASUS ที่กล่าวถึงมือถือ ZenFone Zoom S เป็นมือถือกล้องหลังคู่ตัวแรกของ ASUS ผมได้มีโอกาสใช้งาน และนำไปทดสอบ เลยจะมารีวิวให้เพื่อนๆฟังกันครับ

เรามาแกะกล่องกันดูครับว่ามีอะไรบ้าง

ในกล่องนอกจากมือถือ ก็มี สายชารจ์แบตและสายต่อ, หูฟังแบบ in-ear พร้อมอุปกรณ์เปลี่ยน, คู่มือภาษาไทย, เคสใส ขนาดเครื่องยาว 154.3 มม. กว้าง 77 มม. บาง 7.99 mm น้ำหนัก 170 กรัม มีให้เลือก 3 สีตามภาพด้านล่าง ด้านหลังมือถือมี กล้องคู่, แฟลช Led คู่, สแกนลายนิ้วมือ, เซนเซอร์เช็คความถูกต้องของสี, ระบบโฟกัสเลเซอร์

ก่อนจะไปทดสอบมาดูสเปคเครื่องหลักๆกันก่อนครับ

หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาดกว้าง 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล 100% ของปริภูมิสี NTS กระจก Corning Gorilla Glass 5 ซึ่งทนทานที่สุด แต่ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติเวลาสัมผัส มีฟิลเตอร์ bluelight ถนอมสายตา
CPU Snapdragon 625 CPU Octa-core 2.0GHz
GPU Adreno 506
RAM 4 GB
ROM 64 GB (eMCP)
กล้องหลังคู่ 12 ล้านพิกเซล ตัวแรกระยะ 22mm f/1.7 เซ็นเซอร์ Sony IMX362 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.55 นิ้ว จุดพิกเซล 1.4um เลนส์ตัวที่สอง 12 ล้านพิกเซล ระยะ 59 mm f/2.6 ซูมได้ 12 เท่า
กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ SONY IMX214 ขนาด 1/3.06″ พิกเซล 1.12um
วีดีโอ 4K ที่ 30 fps
กันสั่น กล้องมีระบบกันสั่น OIS 4 แกน 4 stop สำหรับภาพนิ่ง และ EIS 3 แกน สำหรับวีดีโอ
ความเร็วชัตเตอร์ 32 วินาที – 1/16000 วินาที
ISO 50-12800
ระบบโฟกัส TriTech+ Auto Focus เร็ว 0.03 วินาที (Dual Pixel PDAF, Laser AF)
Raw File มี
แฟลช LED Dual Flash
วีดีโอ 4K ที่ 30 fps
ซิม และ การด์หน่วยความจำ รองรับ 2 ซิม และใส่ microSD ได้ถึง 2 TB
รองรับ multituch ได้ถึง 10 นิ้ว
ระบบสแกนลายนิ้วมือ มี
แบต 5000 mAh
ระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ 6.01
สี Navy Black, Glacier Silver, Rose Gold

สเปคที่กล่าวมาด้านบนถือว่าสูงเลยทีเดียว คราวนี้มาดูที่ผมนำไปใช้จริงกันบ้างครับ

*ภาพด้านล่างที่จะเห็นต่อไปนี้ไม่มีการปรับแต่งแสงสีใดๆทั้งสิ้น นอกจากลบสิ่งรบกวนพวกกิ่งไม้เล็กๆและแก้เอียงบางภาพครับ และผม compress file เป็น save for web เพื่อให้โหลดภาพไวขึ้น ทำให้ภาพสูญเสียความละเอียดไปบ้าง

พลังซูม

ผมไปลองถ่ายครั้งแรกที่ ตลาดรถไฟรัชดาครับ แอพที่ติดมากับ ZenFone Zoom S สามารถปรับ manual ได้ ไม่ว่าจะเป็น iso, shutter speed, ระยะโฟกัส และ white balance ฯลฯ


ความเร็วชัตเตอร์ 1/200 sec, ISO 100, f/2.6
ถ่ายด้วยโหมด HDR แอพกล้องที่ให้มาของ ASUS ZenFone Zoom S จะเห็นควาเก็บรายละเอียดได้ดีทีเดียวถ้าเทียบกับกล้องมือถืออื่นๆ และสังเกตตึกไกลๆ ที่สูงที่สุดในภาพให้ดีนะครับ

หากถ่ายและซูมภาพจากมือถือทั่วไปจะได้ภาพทางด้านซ้าย แต่ด้วย ZenFone Zoom S ตัวนี้เป็นกล้องคู่และเก่งเรื่องการซูม โดยซูม optical ได้ 2.3 เท่าโดยภาพยังชัดอยู่ และซูมแบบ Digital สูงสุดได้ถึง 12 เท่า แต่ภาพก็จะเสียความละเอียดไปบ้าง แต่ก็อย่างที่เห็นครับ ผมซูมที่ระยะ 12 เท่า ได้ภาพทางด้านขวา ซึ่งคมชัดกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นอะไรที่ผมชอบมาก เพราะปกติสิ่งที่อึดอัดเวลาถ่ายด้วยกล้องมือถือ คือถ่ายได้ระยะเดียว ซูมไม่ได้ ซูมได้ภาพก็แตก และมีระบบกันสั่นช่วยให้ภาพออกมาชัดกว่าเดิม

ถ่ายในที่มืด


ความเร็วชัตเตอร์ 1/50, f/2.6, ISO 1600

ภาพนี้ถ่ายช่วง 1 ทุ่ม ที่ท่ามหาราช ผมอยู่ฝั่งวังหลัง(ถ่ายข้ามฟาก) ผมใช้กล้องซูม (ระยะ 59 mm) ไปยืนบนเรือแล้วถ่าย มือถือตัวนี้มีเซนเซอร์ที่ใหญ่กว่ามือถือทั่วไปทำให้รับแสงได้ดีกว่า เมื่อรับแสงได้ดี ก็สามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่สูงขึ้นได้ อีกทั้งมีระบบกันสั่น ทำให้ถ่ายความเร็วชัตเตอร์ 1/50 วินาทีบนเรือที่โคลงเคลง ก็สามารถได้ภาพกลับมา และถ้าถ่ายด้วยกล้องหลักที่ f/1.7 จะสามารถเก็บแสงได้มากกว่านี้อีกหลายเท่า แต่รูปนี้จำเป็นต้องใช้กล้องซูมเพราะอยู่กันคนละฟากแม่น้ำเจ้าพระยา 

ปล.ภาพท่ามหาราช นี้หมุน crop นิดหนึ่ง เพื่อให้เส้นขอบฟ้าตรง เพราะเรือโยกอยู่ตลอดครับ

ภาพกลางคืนอีกรูปครับ

แสง

ความเร็วชัตเตอร์ 1/125, f/1.7, ISO 50

นอกจากมีรูรับแสงที่กว้าง และ พิกเซลที่ใหญ่แล้ว ZenFone Zoom S ยังมีซอฟต์แวร์ SuperPixel™ Engine ที่ฉลาด เพิ่มความไวแสงของเซ็นเซอร์ได้สูงถึงสี่เท่า และเมื่อเราใช้ ISO เยอะๆ ซอฟต์แวร์ในมือถือจะลด noise ให้เองอีกด้วยครับ 

สี

สีภาพที่ได้จากกล้องนี้ ไม่จืดเกินไป และไม่สดเกินไปจนสูญเสียรายละเอียด ผมว่าสดใสกำลังดีครับ และมีเซ็นเซอร์การแก้ไขสี RGB สำหรับการถ่ายภาพเพื่อให้ได้สีสันสมจริง ภาพตึกสีด้านบนนี้แก้เส้นตึกนิดหน่อย(ภาพเดิมเป็นมุมเงย) ส่วนแสงสีไม่ได้ปรับแต่งเพิ่มเติมครับ 

ระบบโฟกัส

กล้องจาก ZenFone Zoom S นี้ มีความเร็วโฟกัสแค่ 0.03 วินาที ระบบโฟกัสเป็นแบบ Dual Pixel PDAF แบบใหม่ล่าสุด (ออโต้โฟกัสแบบ Phase Detection) และมีการโฟกัสอัตโนมัติแบบติดตามวัตถุสำหรับทั้งภาพถ่ายและวิดีโอเพื่อช่วยให้วัตถุอยู่ในโฟกัสที่ชัดเจน และโฟกัสอัตโนมัติแบบเลเซอร์สำหรับระยะห่างที่หลากหลาย จากการใช้งานจริง ก็เห็นว่ามันโฟกัสได้ไวจริงๆ แต่มีบ้างบางครั้งที่เซนเซอร์ไวเกินไป มีหลายวัตถุเคลื่อนที่ เลยไม่รู้ว่าจะโฟกัสจุดไหน แต่เราก็สามารถจิ้มหน้าจอเลือกจุดโฟกัสได้

ไฟล์ Raw

มือถือรองรับ Raw File เพื่อให้เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น จะได้นำไปแต่งภาพได้ยืดหยุ่นมากขึ้น จากการทดสอบสามารถดึง Highlight และชุด Shadow ได้พอสมควร ตัวอย่างนี้ไม่อยากขุดมากครับ เพราะกลัวหลอกตา หารูปที่จำเป็นต้องขุดมาไม่ได้จริงๆครับ ต้องขอโทษด้วยครับ

แบตเตอรี่

สิ่งสำคัญอีกอย่างเกี่ยวกับการถ่ายรูปคือแบตเตอรี่ ซึ่งให้มาจัดเต็มมาก 5000 mAh มากกว่ารุ่นอื่น 2-3 เท่า ปกติผมต้องชาร์จมือถือทุกวัน แต่พอมาใช้ ZenFone Zoom S ชารจ์ครั้งหนึ่งใช้ได้ 2-3 วัน ถ่ายรูป เล่นเน็ตตามปกติ โดย ASUS เคลมว่าถ้าเปิด standby ไว้รับสายเฉยๆ อยู่ได้ถึง 42 วัน และยังเปลี่ยนมือถือเป็นแบตสำรองเพื่อชาร์จอุปกรณ์อื่นๆได้อีกด้วย (Reverse Charging) ด้วยแบตขนาดนี้ และความจุ microSD ที่ได้ถึง 2TB เข้าป่าไปถ่ายรูป 2-3 วันนี่สบายเลย ถ้าปิดเน็ตใช้โหมดประหยัดพลังงาน ก็ยิ่งอยู่ได้นานขึ้นไปอีก

โหมดต่างๆ

โปรแกรมกล้องที่ติดมากับมือถือ ZenFone Zoom S มีหลายโหมดมาก ดังนี้

  • Auto
  • Manual : ปรับ ISO, ความเร็วชัตเตอร์, ระยะชัด, White Balance ด้วยตัวเอง
  • HDR Pro : ลดแสงที่สว่างมากเกินไป และเพิ่มแสงในส่วนที่มืด
  • Beautification : สามารถเพิ่มความขาว แต่งสกิน เพิ่มลดขนาดตาและขนาดแก้ม
  • Super Resolution : กล้องจะถ่ายภาพมา 12 ภาพ แล้วนำมาประมวลผลจนได้ภาพความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล 
  • Children : มีเสียงจากโทรศัพท์ หลอกล่อเด็กให้หันมา แล้วถ่ายอัตโนมัติเมื่อตรวจจับใบหน้าได้
  • QR code 
  • Night : ถ่ายภาพกลางคืน โดยเพิ่ม ISO และ ลดความเร็วชัตเตอร์อัตโนมัติ
  • Depth of Field: โหมดหน้าชัดหลังเบลอ เลือกระดับความเบลอได้
  • Effect: มีฟิลเตอร์ต่างๆ ให้เลือกใช้
  • Selfie
  • Gif Animation : ถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบ GIF
  • Panorama: โหมดพาโนรามา
  • Miniature : ถ่ายภาพเบลอแบบ Tilt-Shift  ให้ภาพออกมา แบบจำลองของเล่น
  • Time Rewind : ถ่ายรัวๆมาหลายใบ 2 วินาที แล้วมาเลือกภาพที่ดีที่สุด เหมาะสำหรับถ่ายสิ่งที่เคลื่อนไหวเร็วๆ
  • Smart remove : ถ่ายภาพจำนวนมาก และตรวจจับวัตถุที่ไม่ต้องการให้อยู่ในภาพ แล้วลบออก (เช่นคนเดินผ่าน)
  • All Smile : เหมาะกับถ่ายภาพเป็นกลุ่ม โดยกล้องจะถ่ายภาพรัวๆ มา 5 วินาที ให้เรามาเลือกภาพที่ดีที่สุด
  • Slow motion
  • Time Lapse

ซึ่งมีโหมดเยอะมากๆ ผมจะไปแสดงให้ดูทุกอัน แต่จะแยกเป็นอีกบทความในอนาคต ว่าด้วยการใช้งาน และเทคนิคการถ่ายจากมือถือ ZenFone Zoom S บทความนี้มาดูภาพจากโหมดที่ผมใช้บ่อยดีกว่า

Manual


ความเร็วชัตเตอร์ 1/125, f/2.6, ISO 100 ปรับ White Balance 6500K จากกล้อง

HDR


ความเร็วชัตเตอร์ 1/750, f/2.6, ISO 100 

Panorama

หน้าชัดหลังเบลอ

โหมดหน้าชัดหลังเบลอ เป็นการเบลอแบบใช้ซอฟต์แวร์ ปรับระดับความเบลอได้ แต่ความเนียนจะสู้เบลอแบบธรรมชาติไม่ได้อยู่แล้วครับ

รูปนี้ให้แสงอยู่ด้านหลัง จะดูโบเก้ ทำให้หน้ามืด รูปนี้ผมดึงเงาให้หน้าสว่างและลบสิ่งรบกวนครับ

Beautification

โหมดนี้จะตรวจจับใบหน้าและ แต่งสีผิว เพิ่มความสว่าง เพิ่มลดขนาดตา เพิ่มลดขนาดแก้ม ได้

โหมดขาวดำ

Timelapse

 เสียง

นอกจากเน้นถ่ายภาพแล้ว ZenFone Zoom S ยังมีระบบเสียงที่ดีมาก รองรับไฟล์ Hi-Res 24 bits/192kHz โครงสร้างลำโพงห้าแม่เหล็กขั้นสูง วอยซ์คอยล์โลหะ และช่องเสียงกว้างซึ่งขับเคลื่อนโดย NXP Smart AMP ทำให้ได้เสียงที่ดี

ราคา

ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 16,990 บาท ถ้าเทียบกับมือถือราคา 2-3 หมื่น แล้วถือว่าตัวนี้คุ้มมากครับ คุณภาพจัดเต็มในราคาไม่สูงไป ชนชั้นกลางที่ชอบถ่ายภาพสามารถซื้อได้ ราคาไม่เกินเอื้อมนัก วางขายหลังวันที่ 12 พ.ค.นี้ ซื้อได้ที่ร้านมือถือชั้นนำทั่วประเทศ หากอยู่ในกรุงเทพฯ แนะนำให้ไปที่งาน mobile expo วันที่ 18-21 พ.ค. นี้ครับ

ข้อเสีย

ถ้าเทียบกับมือถือตัวอื่นทั่วไป หาข้อเสียยากอยู่ครับ ที่เจอปัญหาก็มี
1. โหมด Depth of Field หรือหน้าชัดหลังเบลอ บางรูปซอฟต์แวร์ก็เรนเดอร์ให้ไม่เนียน แต่ผมก็ทำใจแล้วครับว่าเบลอด้วยซอฟต์แวร์ จะให้เนียนเหมือนเบลอแบบธรรมชาติ (physical) ยาก ก็ต้องลุ้นว่ามันจะเนียนไหม อนาคตอยากให้อัพเดทซอฟต์แวร์ให้เนียนขึ้นกว่านี้จะดีมาก และมีข่าวว่าการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอจะอยู่ในโหมด Portrait ซึ่งจะมาพร้อมกับ Android 7.0 หลังจากทำการอัพเดทเร็วๆ นี้

2. แฟลร์และโกสต์ เมื่อถ่ายดวงอาทิตย์ตรงๆ จะมีแฟลร์เป็นเส้นๆ และมีโกสต์เกิดขึ้นให้เห็นดังภาพ สู้เลนส์เทพๆที่ใช้กับกล้องใหญ่ไม่ได้ ถ้าเทียบกับมือถือด้วยกัน ผมว่าก็อยู่ในระดับที่ยอมรับได้

ความเร็วชัตเตอร์ 1/750 วินาที, f/2.6, ISO 50, ปรับ White Balance 6500K จากกล้อง

สรุป

ปกติมือถือผมใช้สำหรับโทร เล่น social ถ่ายรูป ฟังเพลง อ่านข่าว ซึ่งหลังจากที่ผมทดสอบมา 1 อาทิตย์ มือถือตัวนี้กลายเป็นมือถือหลักที่ผมใช้เป็นที่เรียบร้อย เพราะตอบสนองต่อความต้องการผมครบ โดยเฉพาะเรื่องฟังเพลง และถ่ายรูป มันขยายขีดจำกัดของกล้องมือถือเดิมของผม ไม่ว่าจะเรื่องระยะการซูมทำให้ถ่ายระยะไกลได้ รับแสงได้ดีกว่าทำให้ใช้ชัตเตอร์สปีดที่เร็วขึ้นได้ ระบบโฟกัสที่ดีกว่า และแบตที่อึดมาก ทำให้ไม่พลาดช็อตสำคัญๆ สมกับที่ ASUS ให้นิยามว่า “Catch The Moment”