
Canon EOS R กล้อง Mirrorless Full-frame ตัวแรกของ Canon กล้องรุ่นใหม่ตัวนี้แม้ตัว D จะหายกลายเป็นตัว R แต่เมื่อได้มาลองใช้แล้วต้องบอกว่ามี “ดี” เยอะมาก
สเปคที่สำคัญ
- เซ็นเซอร์ CMOS ขนาดฟูลเฟรม 35 มม. ความละเอียด 30.3 ล้านพิกเซล
- ช่วงความไวแสงกว้าง ISO 100-40,000 (ปรับเพิ่มได้ถึง 50-102400)
- ชิปประมวลผลภาพ DIGIC 8 รุ่นใหม่ล่าสุด
- จุดออโต้โฟกัส 5,655 จุด ครอบคลุมพื้นที่การทำงาน 100% ในแนวตั้ง และ 88% ในแนวนอน
- ระบบออโต้โฟกัสที่ดวงตา (Eye Detection AF)
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Dual Sensing IS ชดเชยความเร็วชัตเตอร์ได้สูงสุดถึง 5 สตอป (สำหรับภาพนิ่ง)
- ระบบโฟกัส Dual Pixel CMOS AF เร็วที่สุดในโลก เมื่อใช้ร่วมกับเลนส์ RF 24-105
- โฟกัสได้ในที่แสงน้อยได้ถึง -6EV เมื่อใช้กับเลนส์ RF 50 mm f/1.2L
- ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) เทคโนโลยี OLED ความละเอียด 3.69 ล้านจุด ครอบคลุมองศาการมอง 100%
- รุ่นแรกของแคนนอน ที่มีโหมด FV exposure เพื่อใช้ในการปรับตั้งค่าต่างๆ แบบออโต้โดยตรงในโหมดเดียว ทั้งความเร็วชัตเตอร์ รูรับแสง และค่าความไวแสง โดยไม่ต้องละสายตาจากช่องมองภาพ
- โหมด Silent Shutter
- บันทึกภาพเคลื่อนไหวคมชัด ระดับ 4K ที่ 30p/25p (3840 x 2160 พิกเซล)
- รองรับ Canon Log
- รองรับช่องต่อ HDMI
- ตัวกล้องทนทาน ผลิตจากแมกนีเซียมอัลลอยด์ พร้อมซีลกันละอองน้ำและฝุ่น
ลักษณะภายนอก
กล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยด์พร้อมซีลกันฝุ่นและละอองน้ำ น้ำหนัก 660 กรัม

การออกแบบกล้องสะดวกในการจับถือเหมือนกล้อง DSLR ปุ่มควบคุมอยู่ทางขวามือทั้งหมด ด้านซ้ายมีแค่ปุ่มเมนูและเปิดปิด สะดวกกับการถ่ายมือเดียว
มีแถบสัมผัส เป็นการควบคุมการตั้งค่าแบบใหม่ สามารถเซ็ตได้ว่าจะปรับอะไร
เลนส์

มี Control ring หรือวงแหวนควบคุม เพิ่มขึ้นมาจากแค่วงแหวนโฟกัส และวงแหวนซูม เป็นการควบคุมการตั้งค่าแบบใหม่ สามารถเซ็ตได้ว่าจะปรับอะไร

Canon EOS R มาพร้อมกับ Mount ใหม่ที่ชื่อว่า Canon RF ระยะท้ายเลนส์และเซนเซอร์ใกล้กันมากขึ้น ทำให้ออกแบบขนาดเลนส์ได้เล็กลงได้ และรับแสงได้มากกว่า

มีขั้วสัมผัสไฟฟ้า 12 จุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารระหว่างเลนส์กับกล้อง ประหยัด และที่ชอบอีกอย่างคือ เวลาถอดเลนส์ออก มีระบบปิดม่านชัตเตอร์อัตโนมัติ เพื่อป้องกันหน้าเซนเซอร์อีกด้วย มี Adapter สามารถใช้กับเลนส์เดิมได้อีกด้วย

หน้าจอ

จอสัมผัส พับได้ พลิกมาเซลฟีได้
ช่องมองภาพละเอียดถึง 3.69 ล้านจุด ใหญ่กว้างดูสบายตา และออกแบบให้ยื่นออกมา เพื่อไม่ให้จมูกชนหน้าจอ และ เราสามารถเลือกปรับได้ว่าจะให้ช่องมองภาพเน้นคุณภาพ หรือว่าเน้นประหยัดพลังงาน
การถ่ายรูป
กล้อง Canon EOS R มาพร้อมกับเซนเซอร์ 30 ล้าน ตัวประมวลผล Digic 8 ซึ่งประมวลผลได้เร็วมาก
ระบบโฟกัส

มี Dual Pixel CMOS AF ที่เร็วที่สุดในโลก เมื่อใช้ร่วมกับเลนส์ RF 24-105 และมีจุดโฟกัสถึง 5,655 จุด ครอบคลุมพื้นที่ภาพ 100% ในแนวตั้ง และ 88% ในแนวนอน ช่วยให้จัดองค์ประกอบได้ง่ายขึ้นมากๆ เพราะมีจุดโฟกัสที่ครอบคลุมและละเอียด มีระบบโฟกัสหน้า และดวงตาที่ฉลาดและโฟกัสได้ดีขึ้น และ Canon เคลมว่าโฟกัสในที่แสงน้อยได้ถึง -6EV คือ สว่างแค่มีแสงจันทร์เสี้ยวก็โฟกัสได้ แต่ต้องใส่กับเลนส์ f/1.2 ซึ่งเลนส์ที่ผมใช้เป็น 24-105mm f/4 ก็ไม่ได้ไปเทสมืดอะไรขนาดนั้น แต่ใช้ตามปกติคือถ่ายช่วงหลังดวงอาทิตย์ตก ก็ยังโฟกัสได้รวดเร็วและแม่นยำดีครับ
ถ่ายในที่มืด

กล้องตัวนี้ถ่ายในที่มืดได้ดีมาก เพราะเมาท์ใหม่รับแสงได้ดีขึ้น บางสถานการณ์ถ้าเทียบกับกล้องบางรุ่นต้องดัน ISO สูง แต่กล้องตัวนี้กลับไม่ต้องดันขนาดนั้นก็สว่างพอๆกันแล้ว อีกทั้ง มี ISO 100 – 40000 และขยายได้ ถึง 50 – 102400 มาดูภาพ ISO สูงๆกันครับ เราข้ามหลักร้อยกันไปเริ่มที่ ISO 3200 กันเลย จริงๆ มีแยกย่อยกว่านี้ เช่น 3200, 4000, 5000 แต่เพื่อไม่ให้ภาพรกขอเอามาเฉพาะค่าที่มีนัยสำคัญนะครับ






จะเห็นว่าหากโพสต์ภาพลงเว็บปกติ ISO ในช่วงหลักหมื่นก็ถือว่ายังโอเคอยู่ และด้วยพิกเซลที่เยอะ พอย่อลงเว็บ แม้ ISO สูงมาก แต่แทบจะไม่เห็น Noise กันเลย
โหมดถ่ายภาพใหม่

Canon EOS R มาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพใหม่คือ FV จะปรับเองกี่อย่างก็ได้ ตั้งอัตโนมัติกี่อย่างก็ได้ มีอิสระในการปรับเยอะขึ้น ใช้งานง่ายขึ้นมาก
โหมดเงียบ
มี Silent Mode ที่ถ่ายได้เงียบมาก ไม่ได้ยินเสียงเลยครับ

ถ่ายวิดีโอ
การถ่ายวิดีโอเรื่องโฟกัสทำได้ดีอยู่แล้วตามสไตล์แคนอน ไม่มีกันสั่นในตัวแต่มีกันสั่น Digital ผมลองถือแล้วเดินถ่ายดูตามวิดีโอข้างต้น ก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง วิดีโอถ่ายได้ละเอียดถึง 4K 30 fps แต่จะครอปไป 1.7 เท่าครับ
สามารถถ่าย log 10-bit 4:2:2 ผ่าน HDMI หรือ 8-bit 4:2:0 ในตัว
การเชื่อมต่อ
มี WIFI, Bluetooth, HDMI ครบ
ประสบการณ์การใช้งานจริง

หลังจากได้จับกล้อง EOS R ไปถ่ายจริงๆ 2 สัปดาห์ ต้องบอกว่าแรกๆ ไม่คุ้น
เนื่องจากมีฟังก์ชันการใช้งานให้มาเยอะมาก และมีของใหม่ๆเช่น control ring, touch bar, โหมด Fv เยอะแยะมาก แต่หลังจากใช้ไปซักสัปดาห์หนึ่ง ฟีเจอร์ที่ให้มาเยอะๆนี่กลับทำให้ใช้งานง่ายขึ้นมาก ด้วยระบบโฟกัสที่ครอบคลุม รวดเร็วและแม่นยำ ทำให้การจัดองค์ประกอบง่ายขึ้น และมีโอกาสได้ภาพมากขึ้นอีกด้วย อีกอย่างที่ประทับใจในระบบโฟกัสคือฉลาดมาก ไปโฟกัสสิ่งที่เราต้องการจะโฟกัสให้เองเลย มีโฟกัสพลาดอยู่ครั้งหนึ่งตอนเกิดแฟลร์ มันจะไปโฟกัสตรงโกสต์แทน แต่โดยรวมชอบระบบโฟกัสตัวนี้มาก วิดีโอก็ถือว่าทำได้ดีเลย ติดแค่อย่างเดียวคือ 4K ครอป 1.7x สำหรับคนที่อยากถ่าย 4K ระยะ normal ก็ติดเลนส์ wide ไปแทนก็แก้ปัญหาเรื่อง crop นี้ได้
การถ่ายในที่มืดก็ประทับใจมากเนื่องจาก Mount ใหม่ รับแสงได้ดีกว่าเดิมบางสถานการณ์ก็ไม่จำเป็นต้องดัน iso ขึ้นไปสูงเลย และถึงดันขึ้นไปสูงภาพก็ยังออกมาได้ดีอย่างที่เห็นในขั้นต้น

ข้อดี
- ระบบโฟกัส 5,655 จุด ที่ครอบคลุม และไวมาก มี Eye AF และ Face Detection
- ถ่ายในที่มืดได้ดี
- Control Ring และ Touch Bar ที่ช่วยให้ทำงานได้สะดวกขึ้น
- ช่องมองภาพใหญ่ ละเอียด สบายตา
- กันฝุ่นละอองน้ำ
- ถ่ายวิดีโอได้ดี มีกันสั่น digital และ รองรับ log 10 bit
- ถ่ายโหมดเงียบ โดยยังสามารถควบคุมค่าต่างๆ ได้อิสระ
- โหมดใหม่ FV ช่วยให้ควบคุมการตั้งค่าได้ง่ายขึ้น
- หน้าจอพับได้ พลิกมาเซลฟีได้
ข้อสังเกต
- วิดีโอ 4K Crop 1.7x

ภาพทั้งไม่ผ่านการตกแต่ง และภาพที่ลองตกแต่งดูเพื่อทดสอบไฟล์ดู
ภาพหลังกล้อง (ไม่ได้ปรับแต่ง)






มาลองปรับแต่งภาพกันบ้าง ภาพด้านล่างจะแสดงถึงการเก็บรายละเอียดส่วนมืดและส่วนสว่าง ถือว่ากล้องเก็บมาได้ดีเอามาทำต่อได้ง่ายครับ





สรุป
ฟังก์ชันการใช้งานให้มาเยอะมาก และมีของใหม่ๆเช่น control ring, touch bar, โหมด Fv ใช้ง่ายและสะดวกมาก ยิ่งมีจุดโฟกัสที่ครอบคลุมละเอียด และโฟกัสได้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพสูงแม้โฟกัสในที่มืด อีกทั้งถ่ายในที่มืดได้ดี ทำให้มีโอกาสได้ภาพสูงขึ้น
แต่ถึงแม้กล้องตัวนี้จะเพิ่มโอกาสในการได้ภาพของคุณ แต่หากตั้งมันไว้อยู่บ้านโอกาสก็เท่ากับศูนย์ ซื้อกล้องแล้วก็ขยันออกไปถ่ายกันด้วยนะครับ