ภาค 5 นี้จะพูดเกี่ยวกับขั้นตอนการถ่ายกันแล้ว ตั้งแต่การตั้งค่ากล้องกันเลยทีเดียว สำหรับใครยังไม่อ่านภาคก่อนหน้านี้ คลิ๊กเข้าไปอ่านเลย (อ่าน ภาค1, ภาค2, ภาค3, ภาค4, ภาค5, ภาค6, ภาค7)
การถ่ายคลื่น
การถ่ายคลื่นนั้นมีลักษณะเฉพาะตัว เป็นประเภทใหม่ของการถ่าย Seascape มีวิธีการหลักๆ 3 แบบดังนี้
- ยืนบนหาดแล้วซูมเข้าไป
- การให้คลื่นให้เป็นส่วนหนึ่งของภาพ Seascape
- ลงในน้ำ ใช้เลนส์มุมกว้างถ่ายใกล้ๆ
แสงที่ดีที่สุดในการถ่ายคลื่นคือแสงจากด้านหลัง ไม่ใช่ดวงอาทิตย์อยู่ด้านหลังคุณ แต่อยู่ด้านหลังคลื่น มันจะเผยความใส และสีของคลื่นได้อย่่างสวยงาม อาจเปลี่ยนตำแหน่งนิดหน่อย เบี่ยงไปข้างๆนิดหน่อยไม่ต้องถ่ายแสงด้านหลังตรงๆ ปรับความสูงของกล้อง เป็นต้น
การถ่ายคลื่นที่กระทบฝั่ง
การถ่ายคลื่นลูกใหญ่ที่มีการชนอย่างรุนแรง แนะนำให้ทิ้งระยะห่างจากคลื่นและใช้เลนส์เทเลซูมเข้าไป มีมืออาชีพหลายคนเข้าไปถ่ายใกล้ๆด้วยความเสี่ยง แต่ผมยังไม่แนะนำให้ทำนอกจากมีประสปการณ์เยอะจริงๆ เมื่อคุณถ่ายระยะไกลและอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมคุณสามารถได้ภาพที่สวยงามและปลอดภัยอีกด้วย มองดูรอบว่าที่คุณยืนแห้งหรือไม่ ถ้าไม่คลื่นอาจซัดมาถึงคุณได้ พยายามถ่ายมุมต่ำๆ ทำให้คลื่นดูสูง และทรงพลังมากขึ้น

การถ่ายคลื่นที่ใกล้มากๆ คุณต้องมี Housing หรือเคสกันน้ำสำหรับกล้อง สำหรับยี่ห้อดีๆนั้น ราคามักจะสู.กว่าราคากล้อง มันสามารถกดปุ่มต่างๆได้ ถือจับสะดวก และมีฟีเจอร์มากมาย
แต่สำหรับคนงบน้อยก็มีพวกซองยางที่ด้านหน้าใส กันน้ำ จับยากซะหน่อยแต่ก็ภ่ายได้ ผมเคยลองสองครั้งมันก็โอเคดี ผมเคยกังวลเรื่องความปลอดภัยของกล้อง แต่ก็ยังไม่มีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้น คุณจะต้องดำลงไปใต้คลื่น ก่อนที่มันจะซัดคุณไป

การตั้งค่ากล้องเพื่อถ่ายคลื่น
โดยทั่วไปยิ่งเก็บคลื่นในภาพมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงๆ เช่นถ้าเก็บส่วนที่เป็นคลื่นมาซัก 10-20% ของภาพ ให้มันเป็นส่วนหนึ่งของภาพ Landscape สามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ 1/250 วินาทีได้ แต่หากคลื่นมากกว่า 20% คุณต้องใช้ 1/500 วินาที เพื่อให้เห็นรูปร่างของคลื่นอยู่ ถ้าคลื่นเป็นพระเอกและอยู่ในภาพเต็ม อาจต้องใช้ความเร็ซชัตเตอร์ 1/800 หรือเร็วกว่านั้น

การตั้งค่ารูรับแสง ไม่มีหลักตายตัวนัก เช่นซูมเข้าไปเพื่อจับภาพคลื่นโดยเฉพาะ อาจต้องใช้อย่างต่ำ f/8 อย่างต่ำ เพื่อให้คลื่นอยู่ในโฟกัส แต่ฉากหน้าฉากหลังเบลอ คุณอาจสร้างสรรค์งานอีกเช่นให้รูรับแสงกว้างขึ้นเพื่อเพิ่มความเบลอ และแต่ภาพที่คุณต้องการ ถ้าคลื่นไม่ได้เป็นพระเอก มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของภาพ Landscape อาจต้องใช้ f/16 เพื่อเก็บรายละเอียดชัดลึก หรือถ้าใช้ Housing ไปถ่ายคลื่นใกล้ๆ ก็ต้องใช้ รูรับแสงแคบๆเช่น f/16 เพื่อให้คลื่นชัดทั้งหมด
ส่วน ISO ช่วยในเรื่องของความเร็วชัตเตอร์ าหก ต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงๆ แสงเข้าน้อยลงก็ต้องใช้ ISO ช่วยให้สว่างขึ้น

การโฟกัสที่คลื่น
อันนี้สำคัญมากๆ ตั้งค่ากล้องของคุณให้เป็นโฟกัสแบบต่อเนื่อง (continuous focus) การโฟกัสแบบนี้เมื่อคุณกดชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่ง โฟกัสจะล็อคไปที่คลื่นตลอด การเลือกโฟกัสแบบต่อนเื่องแต่ละกล้องต่างกันออกไป ลองไปดูในคู่มือของกล้องคุณ ส่วนการโฟกัสแบบ Tracking เหมาะสำหรับวัตถุที่มีการเคลื่อนไหวเช่นถ่ายเด็ก เป็นต้น
การถ่ายคลื่นแบบ Long Exposure
การถ่าย Long Exposure ของคลื่นนั้น ไม่สามารถใช้ความเร็ซชัตเตอร์ที่ช้าเกินไปได้ เพราะจะทำให้คลื่นกลายเป็นหมอกฟุ้งๆแทน เราต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่พอดีที่ทำให้คลื่นนั่นเบลอๆ นุ่มๆ แต่ยังคงรักษาฟอร์มคลื่นไว้ได้
ความเร็วชัตเตอร์ที่ควรจะเป็น ประมาณ 1/10-1/2 วินาที ขึ้นอยู่กับความเร็วคลื่น

ตอนต่อไปจะเป็นเรื่อง Exposure ที่เหมาะสมในการถ่าย การใช้ฟิลเตอร์ และ Bracketing อย่าลืมติดตามชมกันนะครับ
credits: antongorlin